เพลงสดุดี 49 / Psalms 49 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
[22]
[23]
[24]
[25]
[26]
[27]
[28]
[29]
[30]
[31]
[32]
[33]
[34]
[35]
[36]
[37]
[38]
[39]
[40]
[41]
[42]
[43]
[44]
[45]
[46]
[47]
[48]
[49]
[50]
[51]
[52]
[53]
[54]
[55]
[56]
[57]
[58]
[59]
[60]
[61]
[62]
[63]
[64]
[65]
[66]
[67]
[68]
[69]
[70]
[71]
[72]
[73]
[74]
[75]
[76]
[77]
[78]
[79]
[80]
[81]
[82]
[83]
[84]
[85]
[86]
[87]
[88]
[89]
[90]
[91]
[92]
[93]
[94]
[95]
[96]
[97]
[98]
[99]
[100]
[101]
[102]
[103]
[104]
[105]
[106]
[107]
[108]
[109]
[110]
[111]
[112]
[113]
[114]
[115]
[116]
[117]
[118]
[119]
[120]
[121]
[122]
[123]
[124]
[125]
[126]
[127]
[128]
[129]
[130]
[131]
[132]
[133]
[134]
[135]
[136]
[137]
[138]
[139]
[140]
[141]
[142]
[143]
[144]
[145]
[146]
[147]
[148]
[149]
[150]
ความเชื่อในการเป็นขึ้นมาใหม่
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของคณะโคราห์
49:1 จงฟังข้อความนี้ พวกท่าน ชนชาติทั้งสิ้นเอ๋ย จงเงี่ยหูฟัง พวกท่าน ชาวพิภพทั้งปวงเอ๋ย
Faith in the Resurrection Built on God
To the chief musician, A psalm for the sons of Korah
49:1 Hear this, all ye people; give ear, all ye inhabitants of the world:49:2 ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย เศรษฐีและคนยากจนด้วยกัน
49:2 Both low and high, rich and poor, together.49:3 ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวถึงสติปัญญา และการตรึกตรองแห่งใจของข้าพเจ้าจะอยู่ในเรื่องความเข้าใจ
49:3 My mouth shall speak of wisdom; and the meditation of my heart shall be of understanding.49:4 ข้าพเจ้าจะเอียงหูฟังคำอุปมา ข้าพเจ้าจะแก้ปริศนาของข้าพเจ้าเมื่อเล่นพิณเขาคู่
49:4 I will incline mine ear to a parable: I will open my dark saying upon the harp.49:5 ทำไมข้าพเจ้าจึงจะกลัวในวันทั้งหลายแห่งความชั่วร้าย เมื่อความชั่วช้าแห่งการดำเนินชีวิตของข้าพเจ้าจะล้อมตัวข้าพเจ้าไว้รอบ
49:5 Wherefore should I fear in the days of evil, when the iniquity of my heels shall compass me about?49:6 บรรดาคนที่วางใจในทรัพย์สมบัติของตน และอวดอ้างตัวเองในความมั่งคั่งอันอุดมของตน
49:6 They that trust in their wealth, and boast themselves in the multitude of their riches;49:7 ไม่มีใครในพวกเขาสามารถไถ่พี่น้องของตนได้โดยวิธีหนึ่งวิธีใด หรือถวายค่าไถ่เพื่อเขาแด่พระเจ้า
49:7 None of them can by any means redeem his brother, nor give to God a ransom for him:49:8 (เพราะค่าไถ่แห่งชีวิตของพวกเขามีค่ายิ่งนักและมันสิ้นสุดเป็นนิตย์)
49:8 (For the redemption of their soul is precious, and it ceaseth for ever:)49:9 เพื่อเขาจะมีชีวิตอยู่เรื่อยไปเป็นนิตย์ และไม่ต้องเห็นความเปื่อยเน่า
49:9 That he should still live for ever, and not see corruption.49:10 เพราะเขาเห็นว่าพวกนักปราชญ์ก็ถึงแก่ความตาย คนโง่และคนโฉดก็พินาศเหมือนกัน และทิ้งทรัพย์สมบัติของตนไว้ให้แก่คนอื่น
49:10 For he seeth that wise men die, likewise the fool and the brutish person perish, and leave their wealth to others.49:11 ความคิดภายในของพวกเขาคือ วงศ์วานของพวกเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ และบรรดาที่อยู่อาศัยของพวกเขาจะอยู่จนถึงทุกชั่วอายุ พวกเขาเรียกบรรดาที่ดินของตัวตามชื่อของตนเอง
49:11 Their inward thought is, that their houses shall continue for ever, and their dwelling places to all generations; they call their lands after their own names.49:12 แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ที่มีเกียรติก็จะคงชีพอยู่ไม่ได้ เขาเป็นเหมือนอย่างพวกสัตว์เดรัจฉานที่พินาศไป
49:12 Nevertheless man being in honour abideth not: he is like the beasts that perish.49:13 วิถีทางนี้ของพวกเขาคือความโง่เขลาของพวกเขา ถึงกระนั้นชนรุ่นหลังของพวกเขาก็เห็นด้วยกับบรรดาถ้อยคำของพวกเขา เซลาห์
49:13 This their way is their folly: yet their posterity approve their sayings. Selah.49:14 เหมือนอย่างแกะ พวกเขาถูกวางลงในแดนคนตาย ความตายจะกินพวกเขาเป็นอาหาร และคนเที่ยงธรรมจะครอบครองเหนือพวกเขาในเวลาเช้า และความงามของพวกเขาจะเปื่อยสิ้นไปในแดนคนตายจากที่อยู่อาศัยของพวกเขา
49:14 Like sheep they are laid in the grave; death shall feed on them; and the upright shall have dominion over them in the morning; and their beauty shall consume in the grave from their dwelling.49:15 แต่พระเจ้าจะทรงไถ่จิตใจของข้าพเจ้าจากอำนาจของแดนคนตาย เพราะพระองค์จะทรงรับข้าพเจ้าไว้ เซลาห์
49:15 But God will redeem my soul from the power of the grave: for he shall receive me. Selah.49:16 ท่านอย่ากลัวเมื่อผู้หนึ่งมั่งมีขึ้น เมื่อสง่าราศีแห่งเรือนของเขาเพิ่มขึ้น
49:16 Be not thou afraid when one is made rich, when the glory of his house is increased;49:17 เพราะเมื่อเขาตายแล้ว เขาจะไม่เอาอะไรไปเลย สง่าราศีของเขาจะไม่ลงไปตามเขา
49:17 For when he dieth he shall carry nothing away: his glory shall not descend after him.49:18 ถึงแม้ว่าขณะเมื่อเขายังเป็นอยู่ เขาให้จิตใจของเขาได้รับพร และคนทั้งหลายจะยกย่องท่านเมื่อท่านทำให้ตัวเองเจริญขึ้น
49:18 Though while he lived he blessed his soul: and men will praise thee, when thou doest well to thyself.49:19 เขาจะไปอยู่กับชั่วอายุแห่งบรรพบุรุษของเขา พวกเขาจะไม่เห็นความสว่างเลย
49:19 He shall go to the generation of his fathers; they shall never see light.49:20 มนุษย์ซึ่งมีเกียรติและขาดความเข้าใจ ก็เป็นเหมือนอย่างเหล่าสัตว์เดรัจฉานที่พินาศไป
49:20 Man that is in honour, and understandeth not, is like the beasts that perish.
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope