พระราชบัญญัติ 20 / Deuteronomy 20 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
[22]
[23]
[24]
[25]
[26]
[27]
[28]
[29]
[30]
[31]
[32]
[33]
[34]
กฎเกณฑ์เกี่ยวกับสงคราม
20:1 เมื่อท่านจะยกไปทำการสู้รบกับพวกศัตรูของท่าน และเห็นม้าทั้งหลาย และบรรดารถม้าศึก และกองทัพมีจำนวนมากกว่าท่าน อย่ากลัวพวกเขาเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงสถิตอยู่กับท่าน ผู้ซึ่งได้ทรงนำท่านขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์
Rules concerning War
20:1 When thou goest out to battle against thine enemies, and seest horses, and chariots, and a people more than thou, be not afraid of them: for the LORD thy God is with thee, which brought thee up out of the land of Egypt.20:2 และต่อมาเมื่อพวกท่านเข้ามาใกล้การสู้รบ ปุโรหิตต้องเข้ามาใกล้และกล่าวแก่กองทหาร
20:2 And it shall be, when ye are come nigh unto the battle, that the priest shall approach and speak unto the people,20:3 และจะกล่าวแก่พวกเขาว่า จงฟังเถิด โอ อิสราเอล วันนี้พวกท่านเข้ามาใกล้การสู้รบกับบรรดาศัตรูของพวกท่าน อย่าให้ใจของพวกท่านวิตก อย่ากลัวและอย่าตัวสั่น และพวกท่านอย่าหวาดหวั่นเพราะเหตุพวกเขาเลย
20:3 And shall say unto them, Hear, O Israel, ye approach this day unto battle against your enemies: let not your hearts faint, fear not, and do not tremble, neither be ye terrified because of them;20:4 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านเป็นผู้ที่เสด็จไปพร้อมกับพวกท่าน เพื่อต่อสู้อยู่ฝ่ายพวกท่านกับเหล่าศัตรูของพวกท่าน เพื่อจะช่วยพวกท่านให้รอดพ้น
20:4 For the LORD your God is he that goeth with you, to fight for you against your enemies, to save you.20:5 และบรรดานายทหารต้องพูดกับกองทหาร โดยกล่าวว่า มีชายคนใดบ้างที่ได้สร้างบ้านใหม่ และยังไม่ได้มอบถวายบ้านนั้น ให้คนนั้นไปและกลับไปยังบ้านของตนเถิด เกรงว่าเขาจะตายเสียในการสู้รบ และชายอีกคนหนึ่งจะมอบถวายบ้านนั้น
20:5 And the officers shall speak unto the people, saying, What man is there that hath built a new house, and hath not dedicated it? let him go and return to his house, lest he die in the battle, and another man dedicate it.20:6 และมีชายคนใดบ้างที่เขาได้ปลูกสวนองุ่นและยังไม่ได้กินผลจากสวนองุ่นนั้น ให้คนนั้นไปและกลับไปยังบ้านของตนด้วย เกรงว่าเขาจะตายเสียในการสู้รบ และชายอีกคนหนึ่งจะกินผลจากสวนองุ่นนั้น
20:6 And what man is he that hath planted a vineyard, and hath not yet eaten of it? let him also go and return unto his house, lest he die in the battle, and another man eat of it.20:7 และมีชายคนใดบ้างที่ได้หมั้นหญิงไว้เป็นภรรยาแล้ว และยังไม่ได้แต่งงานกับนาง ให้คนนั้นไปและกลับไปยังบ้านของตนเถิด เกรงว่าเขาจะตายเสียในการสู้รบ และชายอีกคนหนึ่งจะได้นางไปเสีย
20:7 And what man is there that hath betrothed a wife, and hath not taken her? let him go and return unto his house, lest he die in the battle, and another man take her.20:8 และบรรดานายทหารต้องพูดต่อไปอีกกับกองทหาร และพวกเขาต้องกล่าวว่า มีชายคนใดบ้างที่หวาดกลัวและใจเสาะ ให้คนนั้นไปและกลับไปยังบ้านของตนเสีย เกรงว่าใจพี่น้องของเขาจะละลายไปเหมือนกับใจของเขา
20:8 And the officers shall speak further unto the people, and they shall say, What man is there that is fearful and fainthearted? let him go and return unto his house, lest his brethren's heart faint as well as his heart.20:9 และต่อมาเมื่อบรรดานายทหารพูดกับกองทหารจบลงแล้ว พวกเขาต้องเลือกตั้งผู้บังคับบัญชากองต่าง ๆ เพื่อนำหน้ากองทหาร
20:9 And it shall be, when the officers have made an end of speaking unto the people, that they shall make captains of the armies to lead the people.20:10 เมื่อท่านเข้าไปประชิดนครเพื่อจะสู้รบกับนครนั้นแล้ว แล้วจงเสนอหลักสันติภาพแก่นครนั้น
20:10 When thou comest nigh unto a city to fight against it, then proclaim peace unto it.20:11 และต่อมาถ้านครนั้นตอบท่านอย่างสันติและเปิดให้แก่ท่าน แล้วจะเป็นไปเช่นนี้คือประชาชนทั้งหมดที่ถูกพบในนครนั้นต้องทำงานโยธาให้แก่ท่าน และพวกเขาต้องปรนนิบัติท่าน
20:11 And it shall be, if it make thee answer of peace, and open unto thee, then it shall be, that all the people that is found therein shall be tributaries unto thee, and they shall serve thee.20:12 และถ้านครนั้นไม่ยอมร่วมสันติกับท่าน แต่จะทำสงครามกับท่าน แล้วท่านต้องเข้าล้อมตีนครนั้น
20:12 And if it will make no peace with thee, but will make war against thee, then thou shalt besiege it:20:13 และเมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงมอบนครนั้นไว้ในมือของท่านแล้ว ท่านต้องฆ่าผู้ชายทุกคนในนครนั้นเสียด้วยคมดาบ
20:13 And when the LORD thy God hath delivered it into thine hands, thou shalt smite every male thereof with the edge of the sword:20:14 แต่ผู้หญิงและเด็กเล็กทั้งหลาย และสัตว์ และทุกสิ่งที่อยู่ในนครนั้น คือของที่ริบทั้งหมดจากนครนั้น ท่านต้องยึดเอาเป็นของตัว และท่านต้องกินของที่ริบมาจากพวกศัตรูของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่าน
20:14 But the women, and the little ones, and the cattle, and all that is in the city, even all the spoil thereof, shalt thou take unto thyself; and thou shalt eat the spoil of thine enemies, which the LORD thy God hath given thee.20:15 ท่านต้องกระทำอย่างนี้แก่ทุกนครซึ่งอยู่ห่างไกลจากท่าน ซึ่งไม่ใช่นครของประชาชาติเหล่านี้
20:15 Thus shalt thou do unto all the cities which are very far off from thee, which are not of the cities of these nations.20:16 แต่บรรดานครของประชาชาติเหล่านี้ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านให้เป็นมรดก ท่านต้องไม่ไว้ชีวิตสิ่งใด ๆ ที่หายใจได้เลย
20:16 But of the cities of these people, which the LORD thy God doth give thee for an inheritance, thou shalt save alive nothing that breatheth:20:17 แต่ท่านต้องทำลายพวกเขาเสียอย่างสิ้นเชิง คือคนฮิตไทต์ และคนอาโมไรต์ คนคานาอัน และคนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ตามที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้
20:17 But thou shalt utterly destroy them; namely, the Hittites, and the Amorites, the Canaanites, and the Perizzites, the Hivites, and the Jebusites; as the LORD thy God hath commanded thee:20:18 เพื่อพวกเขาจะไม่ได้สอนพวกท่านให้กระทำตามสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งสิ้นของพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้กระทำต่อพระทั้งหลายของพวกเขา เมื่อทำเช่นนั้นพวกท่านก็จะทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน
20:18 That they teach you not to do after all their abominations, which they have done unto their gods; so should ye sin against the LORD your God.20:19 เมื่อท่านจะล้อมนครหนึ่งนครใดอยู่ช้านาน โดยการทำสงครามต่อนครนั้นเพื่อยึดเอานครนั้น ท่านต้องไม่ทำลายบรรดาต้นไม้ของนครนั้นโดยใช้ขวานฟันต้นไม้เหล่านั้น เพราะท่านสามารถรับประทานจากต้นไม้เหล่านั้นได้ และท่านต้องไม่โค่นต้นไม้เหล่านั้นลง (เพราะต้นไม้แห่งทุ่งนาเป็นชีวิตของมนุษย์) เพื่อจะใช้พวกมันในการล้อมนั้น
20:19 When thou shalt besiege a city a long time, in making war against it to take it, thou shalt not destroy the trees thereof by forcing an axe against them: for thou mayest eat of them, and thou shalt not cut them down (for the tree of the field is man's life) to employ them in the siege:20:20 เฉพาะบรรดาต้นไม้ซึ่งท่านทราบว่าเป็นต้นไม้ที่ไม่ได้ใช้เป็นอาหาร ท่านต้องทำลายและโค่นต้นไม้เหล่านั้นลง และท่านต้องสร้างเครื่องล้อมต่อสู้นครที่ทำสงครามกับท่าน จนกว่านครนั้นจะถูกปราบ
20:20 Only the trees which thou knowest that they be not trees for meat, thou shalt destroy and cut them down; and thou shalt build bulwarks against the city that maketh war with thee, until it be subdued.
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope