กลับหน้าแรก / Main Menu

 

พระราชบัญญัติ 10 / Deuteronomy 10

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34]

ไม่มีพระอื่นใดเสมอเหมือนพระเยโฮวาห์
10:1 “ในเวลานั้นพระเยโฮวาห์ทรงกล่าวแก่ข้าพเจ้า โดยตรัสว่า ‘เจ้าจงสกัดแผ่นศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม และขึ้นมาหาเราในภูเขา และเจ้าจงทำหีบไว้ด้วยไม้

No God Like Jehovah
10:1 At that time the LORD said unto me, Hew thee two tables of stone like unto the first, and come up unto me into the mount, and make thee an ark of wood.

10:2 และเราจะจารึกบนแผ่นศิลาเหล่านั้นบรรดาถ้อยคำที่อยู่ในแผ่นศิลาชุดแรกนั้นซึ่งเจ้าทำแตกเสีย และเจ้าจงเก็บแผ่นศิลาเหล่านั้นไว้ในหีบ’

10:2 And I will write on the tables the words that were in the first tables which thou brakest, and thou shalt put them in the ark.

10:3 และข้าพเจ้าได้ทำหีบด้วยไม้ชิททีม และสกัดแผ่นศิลาสองแผ่นเหมือนอย่างชุดแรกนั้น และขึ้นไปในภูเขา โดยมีแผ่นศิลาสองแผ่นนั้นอยู่ในมือของข้าพเจ้า

10:3 And I made an ark of shittim wood, and hewed two tables of stone like unto the first, and went up into the mount, having the two tables in mine hand.

10:4 และพระองค์ได้ทรงจารึกบนแผ่นศิลาเหล่านั้น ตามการจารึกไว้ครั้งแรกนั้น พระบัญญัติสิบประการ ซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ตรัสกับพวกท่านในภูเขานั้นออกมาจากท่ามกลางเพลิงในวันแห่งการประชุมกันนั้น และพระเยโฮวาห์ได้ประทานแผ่นศิลาเหล่านั้นแก่ข้าพเจ้า

10:4 And he wrote on the tables, according to the first writing, the ten commandments, which the LORD spake unto you in the mount out of the midst of the fire in the day of the assembly: and the LORD gave them unto me.

10:5 และข้าพเจ้าก็หันกลับ และลงมาจากภูเขา และเก็บแผ่นศิลาเหล่านั้นไว้ในหีบซึ่งข้าพเจ้าได้ทำขึ้น และแผ่นศิลาเหล่านั้นก็ยังอยู่ที่นั่น ตามที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้

10:5 And I turned myself and came down from the mount, and put the tables in the ark which I had made; and there they be, as the LORD commanded me.

10:6 และลูกหลานของอิสราเอลได้ไปในการเดินทางของพวกเขาจากเบเอโรทแห่งลูกหลานของยาอาคัน จนถึงโมเสราห์ อาโรนได้สิ้นชีวิตที่นั่น และเขาถูกฝังไว้ที่นั่น และเอเลอาซาร์บุตรชายของเขาจึงปรนนิบัติในหน้าที่ปุโรหิตแทนเขา

10:6 And the children of Israel took their journey from Beeroth of the children of Jaakan to Mosera: there Aaron died, and there he was buried; and Eleazar his son ministered in the priest's office in his stead.

10:7 จากที่นั่นพวกเขาได้เดินทางมาถึงกุดโกดาห์ และจากกุดโกดาห์มาถึงโยทบาธาห์ เป็นแผ่นดินของแม่น้ำหลายสายแห่งน้ำทั้งหลาย

10:7 From thence they journeyed unto Gudgodah; and from Gudgodah to Jotbath, a land of rivers of waters.

10:8 ในเวลานั้นพระเยโฮวาห์ได้ทรงแยกเผ่าเลวีออกมา เพื่อหามหีบแห่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ เพื่อยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์เพื่อปรนนิบัติพระองค์ และเพื่ออวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้

10:8 At that time the LORD separated the tribe of Levi, to bear the ark of the covenant of the LORD, to stand before the LORD to minister unto him, and to bless in his name, unto this day.

10:9 ดังนั้นเลวีจึงไม่มีส่วนแบ่งหรือส่วนมรดกกับพวกพี่น้องของตน พระเยโฮวาห์ทรงเป็นมรดกของเขา ตามที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงสัญญาไว้กับเขาแล้วนั้น

10:9 Wherefore Levi hath no part nor inheritance with his brethren; the LORD is his inheritance, according as the LORD thy God promised him.

10:10 และข้าพเจ้าได้อยู่ในภูเขาอย่างครั้งก่อนนั้นสี่สิบวันสี่สิบคืน และพระเยโฮวาห์ได้ทรงตั้งใจฟังข้าพเจ้าในเวลานั้นด้วย และพระเยโฮวาห์จะไม่ทรงทำลายท่าน

10:10 And I stayed in the mount, according to the first time, forty days and forty nights; and the LORD hearkened unto me at that time also, and the LORD would not destroy thee.

10:11 และพระเยโฮวาห์ได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้น เจ้าจงเดินทางของเจ้านำหน้าประชากรนี้ไป เพื่อพวกเขาจะได้เข้าไปและยึดครองแผ่นดินซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้แก่บรรพบุรุษของพวกเขาว่าจะให้แก่พวกเขานั้น’

10:11 And the LORD said unto me, Arise, take thy journey before the people, that they may go in and possess the land, which I sware unto their fathers to give unto them.

10:12 และบัดนี้ คนอิสราเอลเอ๋ย พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประสงค์ให้ท่านกระทำอะไรเล่า นอกจากให้เกรงกลัวพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ให้ดำเนินในทางทั้งปวงของพระองค์ และให้รักพระองค์ และให้ปรนนิบัติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน และด้วยสุดจิตของท่าน

10:12 And now, Israel, what doth the LORD thy God require of thee, but to fear the LORD thy God, to walk in all his ways, and to love him, and to serve the LORD thy God with all thy heart and with all thy soul,

10:13 ให้รักษาบรรดาพระบัญญัติของพระเยโฮวาห์ และกฎเกณฑ์ทั้งหลายของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านวันนี้ เพื่อประโยชน์สุขของท่าน

10:13 To keep the commandments of the LORD, and his statutes, which I command thee this day for thy good?

10:14 ดูเถิด ฟ้าสวรรค์และสวรรค์แห่งฟ้าสวรรค์ทั้งปวงเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน แผ่นดินโลกเช่นกัน พร้อมกับสิ่งสารพัดที่อยู่ในนั้น

10:14 Behold, the heaven and the heaven of heavens is the LORD'S thy God, the earth also, with all that therein is.

10:15 เพียงแต่พระเยโฮวาห์ได้ทรงพอพระทัยในบรรพบุรุษของท่านที่จะทรงรักพวกเขา และพระองค์ได้ทรงเลือกเชื้อสายของพวกเขาที่มาภายหลังเขาเหล่านั้น คือพวกท่านเหนือกว่าชนชาติทั้งปวง เหมือนอย่างเป็นอยู่ทุกวันนี้

10:15 Only the LORD had a delight in thy fathers to love them, and he chose their seed after them, even you above all people, as it is this day.

10:16 เพราะฉะนั้นจงเข้าสุหนัตหนังหุ้มปลายแห่งใจของพวกท่านเสีย และอย่าดื้อรั้นคอแข็งอีกต่อไป

10:16 Circumcise therefore the foreskin of your heart, and be no more stiffnecked.

10:17 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านเป็นพระเจ้าเหนือพระทั้งหลาย และเป็นจอมของเจ้าทั้งปวง เป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่ากลัว ซึ่งไม่ทรงเห็นแก่หน้าผู้ใด และไม่ยอมรับสินบน

10:17 For the LORD your God is God of gods, and Lord of lords, a great God, a mighty, and a terrible, which regardeth not persons, nor taketh reward:

10:18 พระองค์ประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้าพ่อและหญิงม่าย และทรงรักคนแปลกหน้า โดยประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่เขา

10:18 He doth execute the judgment of the fatherless and widow, and loveth the stranger, in giving him food and raiment.

10:19 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักคนแปลกหน้า เพราะว่าพวกท่านเคยเป็นพวกคนแปลกหน้าในแผ่นดินอียิปต์

10:19 Love ye therefore the stranger: for ye were strangers in the land of Egypt.

10:20 ท่านต้องเกรงกลัวพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านต้องปรนนิบัติพระองค์และท่านต้องยึดมั่นอยู่กับพระองค์ และปฏิญาณโดยพระนามของพระองค์

10:20 Thou shalt fear the LORD thy God; him shalt thou serve, and to him shalt thou cleave, and swear by his name.

10:21 พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญของท่าน และพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ผู้ทรงกระทำกิจการใหญ่และน่ากลัวเหล่านี้เพื่อท่าน ซึ่งนัยน์ตาของท่านได้เห็นแล้ว

10:21 He is thy praise, and he is thy God, that hath done for thee these great and terrible things, which thine eyes have seen.

10:22 บรรพบุรุษของท่านได้ลงไปในอียิปต์เป็นจำนวนเจ็ดสิบคน และบัดนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงทำให้ท่านมีจำนวนมากมาย ดุจดวงดาวทั้งหลายแห่งฟ้าสวรรค์”

10:22 Thy fathers went down into Egypt with threescore and ten persons; and now the LORD thy God hath made thee as the stars of heaven for multitude.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope