เลวีนิติ 17 / Leviticus 17 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
[22]
[23]
[24]
[25]
[26]
[27]
พลับพลาแห่งกรุงเยรูซาเล็มเป็นที่สำหรับถวายเครื่องบูชา
17:1 และพระเยโฮวาห์ทรงกล่าวแก่โมเสส โดยตรัสว่า
Looking Toward Jerusalem: Only One Place of Sacrifice
17:1 And the LORD spake unto Moses, saying,17:2 จงพูดกับอาโรนและบุตรชายทั้งหลายของเขา และกับบรรดาลูกหลานของอิสราเอล และกล่าวแก่พวกเขาว่า นี่เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ทรงบัญชาไว้ โดยตรัสว่า
17:2 Speak unto Aaron, and unto his sons, and unto all the children of Israel, and say unto them; This is the thing which the LORD hath commanded, saying,17:3 ผู้ใดก็ตามในวงศ์วานแห่งอิสราเอลที่ฆ่าวัวตัวผู้ หรือลูกแกะหรือแพะในค่าย หรือที่ฆ่าสัตว์นั้นภายนอกค่าย
17:3 What man soever there be of the house of Israel, that killeth an ox, or lamb, or goat, in the camp, or that killeth it out of the camp,17:4 และไม่ได้นำสัตว์นั้นมายังประตูพลับพลาแห่งชุมนุมชน เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์ตรงหน้าพลับพลาของพระเยโฮวาห์ เลือดต้องถูกนับเป็นความผิดแก่ผู้นั้น เขาทำให้เลือดหลั่งออก และผู้นั้นจะต้องถูกตัดขาดจากท่ามกลางชนชาติของตน
17:4 And bringeth it not unto the door of the tabernacle of the congregation, to offer an offering unto the LORD before the tabernacle of the LORD; blood shall be imputed unto that man; he hath shed blood; and that man shall be cut off from among his people:17:5 เพื่อลูกหลานของอิสราเอลจะได้นำบรรดาเครื่องบูชาของพวกเขา ซึ่งพวกเขาถวายในท้องทุ่ง คือเพื่อพวกเขาจะได้นำเครื่องบูชาเหล่านั้นมายังพระเยโฮวาห์ มายังประตูพลับพลาแห่งชุมนุมชน มายังปุโรหิต และถวายสัตว์เหล่านั้นให้เป็นเครื่องสันติบูชาทั้งหลายแด่พระเยโฮวาห์
17:5 To the end that the children of Israel may bring their sacrifices, which they offer in the open field, even that they may bring them unto the LORD, unto the door of the tabernacle of the congregation, unto the priest, and offer them for peace offerings unto the LORD.17:6 และปุโรหิตต้องประพรมเลือดนั้นบนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุมชน และเผาไขมันให้เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัยแด่พระเยโฮวาห์
17:6 And the priest shall sprinkle the blood upon the altar of the LORD at the door of the tabernacle of the congregation, and burn the fat for a sweet savour unto the LORD.17:7 และพวกเขาต้องไม่ถวายเครื่องบูชาของพวกเขาแก่พวกผีปีศาจอีกต่อไป ซึ่งพวกเขาได้เล่นชู้ตามไปนั้น นี่จะเป็นกฎเกณฑ์ตลอดไปแก่พวกเขาตลอดชั่วอายุทั้งหลายของพวกเขา
17:7 And they shall no more offer their sacrifices unto devils, after whom they have gone a whoring. This shall be a statute for ever unto them throughout their generations.17:8 และเจ้าจงกล่าวแก่พวกเขาว่า คนใดก็ตามแห่งวงศ์วานแห่งอิสราเอล หรือของคนแปลกหน้าคนใดผู้อาศัยอยู่ในท่ามกลางพวกเจ้า ที่ถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสัตวบูชา
17:8 And thou shalt say unto them, Whatsoever man there be of the house of Israel, or of the strangers which sojourn among you, that offereth a burnt offering or sacrifice,17:9 และไม่ได้นำเครื่องบูชานั้นมายังประตูพลับพลาแห่งชุมนุมชน เพื่อถวายเครื่องบูชานั้นแด่พระเยโฮวาห์ คือผู้นั้นเองต้องถูกตัดขาดจากท่ามกลางชนชาติของตน
17:9 And bringeth it not unto the door of the tabernacle of the congregation, to offer it unto the LORD; even that man shall be cut off from among his people.17:10 และผู้ใดก็ตามแห่งวงศ์วานแห่งอิสราเอล หรือของคนแปลกหน้าคนใดผู้อาศัยอยู่ในท่ามกลางพวกเจ้า ที่รับประทานเลือดอย่างใด เราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้จิตวิญญาณนั้นที่รับประทานเลือด และจะตัดเขาออกเสียจากท่ามกลางชนชาติของตน
17:10 And whatsoever man there be of the house of Israel, or of the strangers that sojourn among you, that eateth any manner of blood; I will even set my face against that soul that eateth blood, and will cut him off from among his people.17:11 เพราะว่าชีวิตของเนื้อหนังอยู่ในเลือด และเราได้ให้เลือดนั้นแก่พวกเจ้าเพื่อใช้บนแท่นบูชา เพื่อกระทำการลบมลทินบาปให้จิตวิญญาณของพวกเจ้า เพราะว่าเลือดเป็นที่ทำการลบมลทินบาปให้จิตวิญญาณ
17:11 For the life of the flesh is in the blood: and I have given it to you upon the altar to make an atonement for your souls: for it is the blood that maketh an atonement for the soul.17:12 เพราะฉะนั้นเราจึงได้กล่าวแก่ลูกหลานของอิสราเอลว่า ต้องไม่มีจิตวิญญาณใดในพวกเจ้ารับประทานเลือดเลย และต้องไม่มีคนแปลกหน้าคนใดผู้อาศัยในท่ามกลางพวกเจ้ารับประทานเลือด
17:12 Therefore I said unto the children of Israel, No soul of you shall eat blood, neither shall any stranger that sojourneth among you eat blood.17:13 และผู้ใดก็ตามของลูกหลานของอิสราเอล หรือของพวกคนแปลกหน้าผู้อาศัยอยู่ในท่ามกลางพวกเจ้า ซึ่งล่าและจับสัตว์ใด ๆ หรือนกที่สามารถรับประทานได้ เขาต้องเทเลือดของสัตว์นั้นออก และคลุมเลือดนั้นด้วยฝุ่น
17:13 And whatsoever man there be of the children of Israel, or of the strangers that sojourn among you, which hunteth and catcheth any beast or fowl that may be eaten; he shall even pour out the blood thereof, and cover it with dust.17:14 เพราะว่าเลือดนั้นเป็นชีวิตของเนื้อหนังทั้งสิ้น เลือดของสิ่งใดก็เพื่อชีวิตของสิ่งนั้นเอง เพราะฉะนั้นเราจึงได้กล่าวแก่ลูกหลานของอิสราเอลว่า พวกเจ้าต้องไม่รับประทานเลือดของเนื้อหนังใด ๆ เลย เพราะว่าชีวิตของเนื้อหนังทั้งสิ้นคือเลือดของสิ่งนั้น ผู้ใดก็ตามที่รับประทานเลือดก็ต้องถูกตัดขาดเสีย
17:14 For it is the life of all flesh; the blood of it is for the life thereof: therefore I said unto the children of Israel, Ye shall eat the blood of no manner of flesh: for the life of all flesh is the blood thereof: whosoever eateth it shall be cut off.17:15 และจิตวิญญาณทุกดวงที่รับประทานสัตว์ที่ตายเองหรือสัตว์ที่ถูกสัตว์อื่นกัดตาย ไม่ว่าเป็นชาวเมืองคนหนึ่งของพวกเจ้าเอง หรือคนแปลกหน้า เขาต้องซักเสื้อผ้าของตน และล้างตัวเขาเองในน้ำ และเป็นมลทินจนถึงเวลาเย็น แล้วเขาจึงจะสะอาด
17:15 And every soul that eateth that which died of itself, or that which was torn with beasts, whether it be one of your own country, or a stranger, he shall both wash his clothes, and bathe himself in water, and be unclean until the even: then shall he be clean.17:16 แต่ถ้าเขาไม่ซักเสื้อผ้านั้น และไม่ล้างเนื้อหนังของตน แล้วเขาจะต้องรับโทษความชั่วช้าของเขา
17:16 But if he wash them not, nor bathe his flesh; then he shall bear his iniquity.
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope