กลับหน้าแรก / Main Menu

 

1 พงศ์กษัตริย์ 9 / 1 Kings 9

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22]

พันธสัญญาของพระเจ้ากับซาโลมอน (2 พศด 7:12-22)
9:1 และต่อมาเมื่อซาโลมอนได้สร้างพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์สำเร็จแล้ว และพระราชวังของกษัตริย์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงพอพระทัยที่จะกระทำนั้น

God's Covenant with Solomon (2 Chr. 7:12-22)
9:1 And it came to pass, when Solomon had finished the building of the house of the LORD, and the king's house, and all Solomon's desire which he was pleased to do,

9:2 พระเยโฮวาห์ได้ทรงปรากฏแก่ซาโลมอนเป็นครั้งที่สอง เหมือนอย่างที่พระเยโฮวาห์ได้ทรงปรากฏแก่พระองค์ที่กิเบโอน

9:2 That the LORD appeared to Solomon the second time, as he had appeared unto him at Gibeon.

9:3 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาโลมอนว่า “เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าและคำวิงวอนของเจ้าที่เจ้าได้เสนอต่อหน้าเรานั้นแล้ว เราได้ชำระแยกตั้งนิเวศน์นี้ให้เป็นสถานบริสุทธิ์ ซึ่งเจ้าได้สร้างไว้ เพื่อประดิษฐานนามของเราไว้ที่นั่นเป็นนิตย์ และตาของเรากับใจของเราจะอยู่ที่นั่นเสมอไป

9:3 And the LORD said unto him, I have heard thy prayer and thy supplication, that thou hast made before me: I have hallowed this house, which thou hast built, to put my name there for ever; and mine eyes and mine heart shall be there perpetually.

9:4 และถ้าเจ้าจะดำเนินต่อหน้าเรา เหมือนอย่างดาวิดบิดาของเจ้าได้ดำเนิน ในใจซื่อสัตย์ และในความเที่ยงธรรม เพื่อกระทำตามทุกอย่างที่เราได้บัญชาเจ้าไว้ และจะรักษาบรรดากฎเกณฑ์ของเราและคำตัดสินทั้งหลายของเรา

9:4 And if thou wilt walk before me, as David thy father walked, in integrity of heart, and in uprightness, to do according to all that I have commanded thee, and wilt keep my statutes and my judgments:

9:5 แล้วเราก็จะสถาปนาพระที่นั่งแห่งราชอาณาจักรของเจ้าเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์ เหมือนอย่างที่เราได้สัญญาไว้กับดาวิดบิดาของเจ้า โดยตรัสว่า ‘เจ้าจะไม่ขาดชายผู้หนึ่งบนพระที่นั่งแห่งอิสราเอล’

9:5 Then I will establish the throne of thy kingdom upon Israel for ever, as I promised to David thy father, saying, There shall not fail thee a man upon the throne of Israel.

9:6 แต่ถ้าพวกเจ้าจะหันไปจากการติดตามเราเลย ตัวพวกเจ้าหรือลูกหลานของพวกเจ้า และจะไม่ยอมรักษาบรรดาบัญญัติของเราและกฎเกณฑ์ทั้งหลายของเรา ซึ่งเราได้ตั้งไว้ต่อหน้าพวกเจ้า แต่ไปและปรนนิบัติพระอื่น ๆ และนมัสการพระเหล่านั้น

9:6 But if ye shall at all turn from following me, ye or your children, and will not keep my commandments and my statutes which I have set before you, but go and serve other gods, and worship them:

9:7 แล้วเราก็จะตัดอิสราเอลออกเสียจากแผ่นดินซึ่งเราได้ยกให้แก่พวกเขา และนิเวศน์นี้ซึ่งเราได้กระทำให้เป็นสถานบริสุทธิ์เพื่อนามของเรา เราจะเหวี่ยงออกเสียจากสายตาของเรา และอิสราเอลจะเป็นคำภาษิตและคำครหาท่ามกลางชนชาติทั้งสิ้น

9:7 Then will I cut off Israel out of the land which I have given them; and this house, which I have hallowed for my name, will I cast out of my sight; and Israel shall be a proverb and a byword among all people:

9:8 และที่นิเวศน์นี้ ซึ่งสูงส่ง ทุกคนที่ผ่านนิเวศน์นี้ไปมาจะประหลาดใจ และจะเย้ยหยัน และพวกเขาจะกล่าวว่า ‘เหตุไฉนพระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำเช่นนี้แก่แผ่นดินนี้ และแก่พระนิเวศน์นี้’

9:8 And at this house, which is high, every one that passeth by it shall be astonished, and shall hiss; and they shall say, Why hath the LORD done thus unto this land, and to this house?

9:9 และพวกเขาจะตอบว่า ‘เพราะว่าพวกเขาได้ทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเขา ผู้ได้ทรงนำบรรพบุรุษของพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ และได้ยึดถือเอาพระอื่น ๆ และได้นมัสการพระเหล่านั้น และได้ปรนนิบัติพระเหล่านั้น เหตุฉะนั้นพระเยโฮวาห์จึงได้ทรงนำความร้ายทั้งสิ้นนี้มาเหนือพวกเขา’”

9:9 And they shall answer, Because they forsook the LORD their God, who brought forth their fathers out of the land of Egypt, and have taken hold upon other gods, and have worshipped them, and served them: therefore hath the LORD brought upon them all this evil.

กิตติศัพท์ของซาโลมอนเลื่องลือไปทั่ว (2 พศด 8:1-18)
9:10 และต่อมาเมื่อสิ้นยี่สิบปี เมื่อซาโลมอนได้ทรงสร้างอาคารสองหลังนั้นแล้ว คือพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์ และพระราชวังของกษัตริย์

Enlargement and Fame of Solomon (2 Chr. 8:1-18)
9:10 And it came to pass at the end of twenty years, when Solomon had built the two houses, the house of the LORD, and the king's house,

9:11 (บัดนี้ ฮีรามกษัตริย์แห่งไทระได้ส่งพวกไม้สนซีดาร์ และพวกไม้เฟอร์ และทองคำให้แก่ซาโลมอนตามความปรารถนาทั้งสิ้นของพระองค์) แล้วกษัตริย์ซาโลมอนจึงประทานนครยี่สิบนครในแผ่นดินกาลิลีให้แก่ฮีราม

9:11 (Now Hiram the king of Tyre had furnished Solomon with cedar trees and fir trees, and with gold, according to all his desire,) that then king Solomon gave Hiram twenty cities in the land of Galilee.

9:12 และฮีรามเสด็จออกมาจากไทระเพื่อทอดพระเนตรนครเหล่านั้นซึ่งซาโลมอนมอบให้แก่ท่าน และนครเหล่านั้นไม่เป็นที่พอพระทัยของท่าน

9:12 And Hiram came out from Tyre to see the cities which Solomon had given him; and they pleased him not.

9:13 และท่านตรัสว่า “นครเหล่านี้ซึ่งท่านได้มอบให้แก่ข้าพเจ้านั้นเป็นนครอะไรกันนี่ น้องของข้าพเจ้าเอ๋ย” และท่านจึงเรียกนครเหล่านั้นว่าแผ่นดินคาบูลจนถึงทุกวันนี้

9:13 And he said, What cities are these which thou hast given me, my brother? And he called them the land of Cabul unto this day.

9:14 และฮีรามได้ส่งทองคำหนึ่งร้อยยี่สิบตะลันต์ให้แก่กษัตริย์

9:14 And Hiram sent to the king sixscore talents of gold.

9:15 และนี่เป็นเหตุผลซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงเกณฑ์แรงงานโยธา คือเพื่อสร้างพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์ และพระราชวังของพระองค์เอง และป้อมมิลโล และกำแพงแห่งกรุงเยรูซาเล็ม และเมืองฮาโซร์ และเมกิดโด และเมืองเกเซอร์

9:15 And this is the reason of the levy which king Solomon raised; for to build the house of the LORD, and his own house, and Millo, and the wall of Jerusalem, and Hazor, and Megiddo, and Gezer.

9:16 ด้วยว่าฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ได้ยกทัพขึ้นมา และยึดเกเซอร์ และเผานครนั้นเสียด้วยไฟ และได้ฆ่าคนคานาอันที่อาศัยอยู่ในนครนั้น และได้ยกนครนั้นให้เป็นของขวัญแก่ราชธิดาของท่าน คือมเหสีของซาโลมอน

9:16 For Pharaoh king of Egypt had gone up, and taken Gezer, and burnt it with fire, and slain the Canaanites that dwelt in the city, and given it for a present unto his daughter, Solomon's wife.

9:17 และซาโลมอนได้ทรงสร้างเมืองเกเซอร์ และเมืองเบธโฮโรนล่าง

9:17 And Solomon built Gezer, and Bethhoron the nether,

9:18 และเมืองบาอาลัท และเมืองทัดโมร์ในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินนั้น

9:18 And Baalath, and Tadmor in the wilderness, in the land,

9:19 และบรรดานครที่เป็นคลังเสบียง ที่ซาโลมอนมีอยู่นั้น และนครทั้งหลายสำหรับบรรดารถม้าศึกของพระองค์ และบรรดานครสำหรับพวกทหารม้าของพระองค์ และสิ่งใด ๆ ซึ่งซาโลมอนทรงปรารถนาที่จะสร้างในกรุงเยรูซาเล็ม และในเลบานอน และในแผ่นดินทั้งสิ้นแห่งการครอบครองของพระองค์

9:19 And all the cities of store that Solomon had, and cities for his chariots, and cities for his horsemen, and that which Solomon desired to build in Jerusalem, and in Lebanon, and in all the land of his dominion.

9:20 และประชาชนทั้งสิ้นที่เหลืออยู่ของคนอาโมไรต์ คนฮิตไทต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ผู้ซึ่งไม่ใช่ลูกหลานของอิสราเอล

9:20 And all the people that were left of the Amorites, Hittites, Perizzites, Hivites, and Jebusites, which were not of the children of Israel,

9:21 ลูกหลานของพวกเขาที่เหลืออยู่จากพวกเขาในแผ่นดิน ซึ่งลูกหลานของอิสราเอลไม่สามารถจะทำลายให้สูญสิ้นได้ คนเหล่านั้นซาโลมอนได้ทรงเกณฑ์ให้เป็นทาสรับใช้อยู่จนทุกวันนี้

9:21 Their children that were left after them in the land, whom the children of Israel also were not able utterly to destroy, upon those did Solomon levy a tribute of bondservice unto this day.

9:22 แต่ลูกหลานของอิสราเอลนั้น ซาโลมอนไม่ได้ทรงกระทำให้เป็นทาส แต่พวกเขาเป็นพวกทหาร และเป็นพวกผู้รับใช้ของพระองค์ และเป็นพวกเจ้านายของพระองค์ และเป็นพวกนายทหารของพระองค์ และเป็นพวกผู้บังคับการรถม้าศึกทั้งหลายของพระองค์ และเป็นพวกทหารม้าของพระองค์

9:22 But of the children of Israel did Solomon make no bondmen: but they were men of war, and his servants, and his princes, and his captains, and rulers of his chariots, and his horsemen.

9:23 คนเหล่านี้เป็นพวกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่เหนือพระราชกิจของซาโลมอน จำนวนห้าร้อยห้าสิบคน ผู้ซึ่งบังคับบัญชาประชาชนที่ทำงานในงานนั้น

9:23 These were the chief of the officers that were over Solomon's work, five hundred and fifty, which bare rule over the people that wrought in the work.

9:24 แต่ราชธิดาของฟาโรห์ได้ขึ้นมาจากนครของดาวิด ถึงพระตำหนักของพระนางเอง ซึ่งซาโลมอนได้ทรงสร้างไว้ให้พระนาง แล้วพระองค์ได้ทรงสร้างป้อมมิลโล

9:24 But Pharaoh's daughter came up out of the city of David unto her house which Solomon had built for her: then did he build Millo.

9:25 และปีละสามครั้งซาโลมอนได้ทรงถวายบรรดาเครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาทั้งหลายบนแท่นบูชา ซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างไว้ถวายแด่พระเยโฮวาห์ และพระองค์ได้ทรงเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชาที่อยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ดังนั้นพระองค์ได้ทรงสร้างพระนิเวศน์จนสำเร็จ

9:25 And three times in a year did Solomon offer burnt offerings and peace offerings upon the altar which he built unto the LORD, and he burnt incense upon the altar that was before the LORD. So he finished the house.

9:26 และกษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงสร้างกองทัพเรือในเอซีโอนเกเบอร์ ซึ่งอยู่ข้างเอโลท บนฝั่งทะเลแดงในแผ่นดินเอโดม

9:26 And king Solomon made a navy of ships in Eziongeber, which is beside Eloth, on the shore of the Red sea, in the land of Edom.

9:27 และฮีรามได้ส่งในกองทัพเรือนั้นเหล่าข้าราชการของท่าน คือพวกลูกเรือที่มีความรู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับทะเล ไปพร้อมกับเหล่าข้าราชการของซาโลมอน

9:27 And Hiram sent in the navy his servants, shipmen that had knowledge of the sea, with the servants of Solomon.

9:28 และพวกเขามาถึงเมืองโอฟีร์ และนำทองคำมาจากที่นั่น จำนวนสี่ร้อยยี่สิบตะลันต์ และนำทองคำนั้นมาถวายแด่กษัตริย์ซาโลมอน

9:28 And they came to Ophir, and fetched from thence gold, four hundred and twenty talents, and brought it to king Solomon.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope