มัทธิว 26 / Matthew 26 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
[22]
[23]
[24]
[25]
[26]
[27]
[28]
พวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้อาวุโสวางแผนที่จะฆ่าพระเยซู (มก 14:1-2; ลก 22:1-2)
26:1 และต่อมาเมื่อพระเยซูตรัสบรรดาถ้อยคำเหล่านี้เสร็จแล้ว พระองค์ตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า
Chief Priests and Elders Plan to Kill Jesus (Mark 14:1-2; Luke 22:1-2)
26:1 And it came to pass, when Jesus had finished all these sayings, he said unto his disciples,26:2 ท่านทั้งหลายทราบอยู่ว่าหลังจากสองวันจะถึงงานเลี้ยงแห่งเทศกาลปัสกา และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศให้ถูกตรึงที่กางเขน
26:2 Ye know that after two days is the feast of the passover, and the Son of man is betrayed to be crucified.26:3 แล้วพวกปุโรหิตใหญ่ และพวกธรรมาจารย์ และพวกผู้อาวุโสของประชาชนได้ประชุมกันที่คฤหาสน์ของมหาปุโรหิต ผู้ซึ่งถูกเรียกว่า คายาฟาส
26:3 Then assembled together the chief priests, and the scribes, and the elders of the people, unto the palace of the high priest, who was called Caiaphas,26:4 และปรึกษากันเพื่อพวกเขาจะจับพระเยซูด้วยอุบาย และฆ่าพระองค์เสีย
26:4 And consulted that they might take Jesus by subtilty, and kill him.26:5 แต่พวกเขากล่าวว่า ไม่ใช่ในวันเลี้ยง เกรงว่าจะเกิดความโกลาหลในท่ามกลางประชาชน
26:5 But they said, Not on the feast day, lest there be an uproar among the people.มารีย์ชาวบ้านเบธานีชโลมพระเยซูต่อหน้าคนทั้งหลาย (มก 14:3-9; ยน 12:1-8)
26:6 บัดนี้เมื่อพระเยซูประทับอยู่ในหมู่บ้านเบธานี ในบ้านของซีโมนคนโรคเรื้อน
Mary of Bethany Anoints Jesus Publicly (Mark 14:3-9; John 12:1-8)
26:6 Now when Jesus was in Bethany, in the house of Simon the leper,26:7 ผู้หญิงคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์โดยถือผอบน้ำมันหอมราคาแพงมาก และเทน้ำมันนั้นบนพระเศียรของพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงเอนพระกายลงเสวยอยู่
26:7 There came unto him a woman having an alabaster box of very precious ointment, and poured it on his head, as he sat at meat.26:8 แต่เมื่อพวกสาวกของพระองค์เห็นการนั้น พวกเขาก็มีความขุ่นเคือง โดยกล่าวว่า ทำการเสียเปล่าเช่นนี้เพื่ออะไรกัน
26:8 But when his disciples saw it, they had indignation, saying, To what purpose is this waste?26:9 ด้วยว่าน้ำมันหอมนี้อาจจะถูกขายแล้วได้เงินมาก และแจกให้คนยากจนก็ได้
26:9 For this ointment might have been sold for much, and given to the poor.26:10 เมื่อพระเยซูทรงเข้าใจสิ่งนี้ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า ทำไมพวกท่านรบกวนผู้หญิงคนนี้ ด้วยว่าเธอได้กระทำการงานที่ดีแก่เรา
26:10 When Jesus understood it, he said unto them, Why trouble ye the woman? for she hath wrought a good work upon me.26:11 ด้วยว่าพวกท่านมีคนยากจนอยู่กับพวกท่านเสมอ แต่พวกท่านไม่มีเราอยู่ด้วยเสมอไป
26:11 For ye have the poor always with you; but me ye have not always.26:12 ด้วยว่าซึ่งเธอได้เทน้ำมันหอมนี้บนกายของเรา เธอได้กระทำเช่นนั้นเพื่อการฝังศพของเรา
26:12 For in that she hath poured this ointment on my body, she did it for my burial.26:13 เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ที่ไหนก็ตามที่ข่าวประเสริฐนี้จะถูกประกาศไปในทั่วโลก สิ่งนี้ซึ่งหญิงคนนี้ได้กระทำจะถูกกล่าวไปเป็นที่ระลึกถึงเธอด้วยที่นั่น
26:13 Verily I say unto you, Wheresoever this gospel shall be preached in the whole world, there shall also this, that this woman hath done, be told for a memorial of her.ยูดาสตกลงที่จะทรยศพระเยซู (มก 14:10-11; ลก 22:3-6)
26:14 แล้วคนหนึ่งในสิบสองคนนั้น ที่ถูกเรียกว่า ยูดาสอิสคาริโอท ได้ไปหาพวกปุโรหิตใหญ่
Judas Agrees to Betray Jesus (Mark 14:10-11; Luke 22:3-6)
26:14 Then one of the twelve, called Judas Iscariot, went unto the chief priests,26:15 และกล่าวแก่พวกเขาว่า ท่านทั้งหลายจะให้อะไรแก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะมอบเขาไว้แก่ท่านทั้งหลาย และพวกเขาทำสัญญากับเขาว่าจะให้เหรียญเงินสามสิบเหรียญ
26:15 And said unto them, What will ye give me, and I will deliver him unto you? And they covenanted with him for thirty pieces of silver.26:16 และตั้งแต่เวลานั้นมายูดาสก็หาโอกาสที่จะทรยศพระองค์
26:16 And from that time he sought opportunity to betray him.การจัดเตรียมเบื้องต้นสำหรับเทศกาลปัสกา (มก 14:12-16; ลก 22:7-13)
26:17 บัดนี้ในวันแรกแห่งเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ พวกสาวกมาหาพระเยซู โดยทูลพระองค์ว่า พระองค์ทรงปรารถนาที่จะให้ข้าพระองค์ทั้งหลายจัดเตรียมปัสกาให้พระองค์เสวยที่ไหน
Preliminary Preparation for Passover (Mark 14:12-16; Luke 22:7-13)
26:17 Now the first day of the feast of unleavened bread the disciples came to Jesus, saying unto him, Where wilt thou that we prepare for thee to eat the passover?26:18 และพระองค์ตรัสว่า จงเข้าไปหาชายคนหนึ่งในกรุง และกล่าวแก่เขาว่า พระอาจารย์ตรัสว่า เวลาของเรามาใกล้แล้ว เราจะถือเทศกาลปัสกาที่บ้านของท่านพร้อมกับพวกสาวกของเรา
26:18 And he said, Go into the city to such a man, and say unto him, The Master saith, My time is at hand; I will keep the passover at thy house with my disciples.26:19 และพวกสาวกเหล่านั้นก็กระทำตามที่พระเยซูทรงรับสั่งพวกเขา และพวกเขาได้จัดเตรียมปัสกาไว้พร้อม
26:19 And the disciples did as Jesus had appointed them; and they made ready the passover.การรับประทานอาหารก่อนเทศกาลปัสกา (มก 14:17-21; ลก 22:14-23; ยน 13:2-30)
26:20 บัดนี้เมื่อมาถึงเวลาเย็น พระองค์เอนพระกายลงร่วมกับสิบสองคนนั้น
Preliminary Meal before Passover (Mark 14:17-21; Luke 22:14-23; John 13:2-30)
26:20 Now when the even was come, he sat down with the twelve.26:21 และขณะที่พวกเขารับประทานกันอยู่ พระองค์ตรัสว่า เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา
26:21 And as they did eat, he said, Verily I say unto you, that one of you shall betray me.26:22 และพวกเขาโศกเศร้ายิ่งนัก และทุกคนในพวกเขาเริ่มทูลพระองค์ว่า พระองค์เจ้าข้า คือข้าพระองค์หรือ
26:22 And they were exceeding sorrowful, and began every one of them to say unto him, Lord, is it I?26:23 และพระองค์ทรงตอบและตรัสว่า ผู้ที่เอามือของตนจุ่มลงในชามเดียวกันกับเรา ผู้นั้นแหละจะทรยศเรา
26:23 And he answered and said, He that dippeth his hand with me in the dish, the same shall betray me.26:24 บุตรมนุษย์จะเสด็จไปตามที่มีเขียนไว้แล้วว่าด้วยพระองค์นั้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่ทรยศบุตรมนุษย์ จะเป็นการดีสำหรับคนนั้น ถ้าเขามิได้บังเกิดมาเลย
26:24 The Son of man goeth as it is written of him: but woe unto that man by whom the Son of man is betrayed! it had been good for that man if he had not been born.26:25 แล้วยูดาส ผู้ซึ่งได้ทรยศพระองค์ ตอบและทูลว่า อาจารย์เจ้าข้า คือข้าพระองค์หรือ พระองค์ตรัสกับเขาว่า ท่านพูดเองแล้วนี่
26:25 Then Judas, which betrayed him, answered and said, Master, is it I? He said unto him, Thou hast said.การตั้งพิธีระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า (มก 14:22-25; ลก 22:17-20; 1 คร 11:23-25)
26:26 และขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา และทรงขอบพระคุณสำหรับขนมปังนั้น และทรงหักมัน และส่งมันให้แก่พวกสาวก และตรัสว่า จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา
The Lord's Supper Instituted (Mark 14:22-25; Luke 22:17-20; 1 Cor. 11:23-25)
26:26 And as they were eating, Jesus took bread, and blessed it, and brake it, and gave it to the disciples, and said, Take, eat; this is my body.26:27 และพระองค์ทรงหยิบถ้วยมา และทรงขอบพระคุณ และส่งถ้วยนั้นให้พวกเขา โดยตรัสว่า ท่านทั้งหลายจงดื่มจากถ้วยนั้นทุกคนเถิด
26:27 And he took the cup, and gave thanks, and gave it to them, saying, Drink ye all of it;26:28 ด้วยว่านี่เป็นโลหิตของเราแห่งพันธสัญญาใหม่ ซึ่งหลั่งออกมาเพื่อคนเป็นอันมากเพื่อการทรงยกบาปทั้งหลาย
26:28 For this is my blood of the new testament, which is shed for many for the remission of sins.26:29 แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า จากนี้ไปเราจะไม่ดื่มผลจากเถาองุ่นนี้ จนถึงวันนั้นเมื่อเราจะดื่มมันใหม่กับพวกท่านในอาณาจักรของพระบิดาของเรา
26:29 But I say unto you, I will not drink henceforth of this fruit of the vine, until that day when I drink it new with you in my Father's kingdom.ทรงพยากรณ์ว่าเปโตรจะปฏิเสธพระองค์ (มก 14:26-31; ลก 22:31-34; ยน 13:36-38)
26:30 และเมื่อพวกเขาได้ร้องเพลงนมัสการบทหนึ่งแล้ว พวกเขาก็ออกไปยังภูเขามะกอกเทศ
Peter's Denial Foretold (Mark 14:26-31; Luke 22:31-34; John 13:36-38)
26:30 And when they had sung an hymn, they went out into the mount of Olives.26:31 แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า ในคืนวันนี้พวกท่านทุกคนจะสะดุดเพราะเรา ด้วยมีเขียนไว้แล้วว่า เราจะตีผู้เลี้ยงแกะ และแกะทั้งหลายของฝูงนั้นจะกระจัดกระจายไปทั่ว
26:31 Then saith Jesus unto them, All ye shall be offended because of me this night: for it is written, I will smite the shepherd, and the sheep of the flock shall be scattered abroad.26:32 แต่หลังจากเราเป็นขึ้นมาแล้ว เราจะไปยังแคว้นกาลิลีก่อนหน้าพวกท่าน
26:32 But after I am risen again, I will go before you into Galilee.26:33 เปโตรตอบและทูลพระองค์ว่า ถึงแม้ว่ามนุษย์ทุกคนจะสะดุดเพราะพระองค์ แต่ไม่มีทางที่ข้าพระองค์จะสะดุด
26:33 Peter answered and said unto him, Though all men shall be offended because of thee, yet will I never be offended.26:34 พระเยซูตรัสกับเขาว่า เรากล่าวความจริงแก่ท่านว่า ในคืนนี้ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง
26:34 Jesus said unto him, Verily I say unto thee, That this night, before the cock crow, thou shalt deny me thrice.26:35 เปโตรทูลพระองค์ว่า ถึงแม้ว่าข้าพระองค์จะตายพร้อมกับพระองค์ แต่ข้าพระองค์จะไม่ปฏิเสธพระองค์เลย พวกสาวกทุกคนก็ทูลในทำนองเดียวกันด้วย
26:35 Peter said unto him, Though I should die with thee, yet will I not deny thee. Likewise also said all the disciples.พระเยซูใกล้จะสิ้นพระชนม์ในสวนเกทเสมนี (มก 14:32-42; ลก 22:39-46; ยน 18:1)
26:36 แล้วพระเยซูเสด็จมาพร้อมกับพวกเขาถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกเรียกว่า เกทเสมนี และตรัสกับพวกสาวกว่า พวกท่านจงนั่งอยู่ที่นี่ ขณะที่เราไปและอธิษฐานที่โน่น
Jesus Near Death in Gethsemane (Mark 14:32-42; Luke 22:39-46; John 18:1)
26:36 Then cometh Jesus with them unto a place called Gethsemane, and saith unto the disciples, Sit ye here, while I go and pray yonder.26:37 และพระองค์ทรงพาเปโตรกับบุตรชายทั้งสองของเศเบดีไปกับพระองค์ และทรงเริ่มโศกเศร้าและหนักพระทัยยิ่งนัก
26:37 And he took with him Peter and the two sons of Zebedee, and began to be sorrowful and very heavy.26:38 แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า จิตใจของเราโศกเศร้ายิ่งนัก แทบจะตายได้เลย พวกท่านจงรออยู่ที่นี่ และเฝ้าอยู่กับเราเถิด
26:38 Then saith he unto them, My soul is exceeding sorrowful, even unto death: tarry ye here, and watch with me.พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของพระเยซูในสวนเกทเสมนี (มก 14:35-41; ลก 22:41-44; ฮบ 5:7)
26:39 และพระองค์เสด็จดำเนินไปอีกหน่อยหนึ่ง และซบพระพักตร์ของพระองค์ลงถึงดิน และอธิษฐาน โดยทูลว่า โอ พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ตาม อย่าให้เป็นตามที่ข้าพระองค์ปรารถนา แต่ให้เป็นไปตามที่พระองค์ทรงปรารถนาเถิด
Prayer of Jesus in Gethsemane Answered (Mark 14:35-41; Luke 22:41-44; Heb. 5:7)
26:39 And he went a little further, and fell on his face, and prayed, saying, O my Father, if it be possible, let this cup pass from me: nevertheless not as I will, but as thou wilt.26:40 และพระองค์เสด็จกลับมายังพวกสาวก และทรงพบพวกเขานอนหลับอยู่ และตรัสกับเปโตรว่า อะไรกัน ท่านทั้งหลายจะเฝ้าอยู่กับเราสักชั่วโมงหนึ่งไม่ได้หรือ
26:40 And he cometh unto the disciples, and findeth them asleep, and saith unto Peter, What, could ye not watch with me one hour?26:41 จงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อพวกท่านจะไม่เข้าในการทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังยังอ่อนกำลัง
26:41 Watch and pray, that ye enter not into temptation: the spirit indeed is willing, but the flesh is weak.26:42 พระองค์เสด็จไปครั้งที่สองอีก และอธิษฐาน โดยทูลว่า โอ ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์ไม่ได้ และข้าพระองค์ต้องดื่มถ้วยนี้ ก็ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
26:42 He went away again the second time, and prayed, saying, O my Father, if this cup may not pass away from me, except I drink it, thy will be done.26:43 และพระองค์เสด็จมา และทรงพบพวกเขานอนหลับอีก เพราะตาของพวกเขาลืมไม่ขึ้น
26:43 And he came and found them asleep again: for their eyes were heavy.26:44 และพระองค์ทรงละพวกเขาไว้ และเสด็จไปอีก และอธิษฐานครั้งที่สาม โดยกล่าวบรรดาถ้อยคำเดิม
26:44 And he left them, and went away again, and prayed the third time, saying the same words.26:45 แล้วพระองค์เสด็จมายังพวกสาวกของพระองค์ และตรัสกับพวกเขาว่า เดี๋ยวนี้ จงนอนต่อไปและพวกท่านจงพักผ่อนเถิด ดูเถิด เวลามาใกล้แล้ว และบุตรมนุษย์จะถูกทรยศไว้ในมือของพวกคนบาป
26:45 Then cometh he to his disciples, and saith unto them, Sleep on now, and take your rest: behold, the hour is at hand, and the Son of man is betrayed into the hands of sinners.26:46 จงลุกขึ้น ให้พวกเราไปกันเถิด ดูเถิด ผู้ที่จะทรยศเรามาใกล้แล้ว
26:46 Rise, let us be going: behold, he is at hand that doth betray me.การทรยศและการจับกุมพระเยซู (มก 14:43-50; ลก 22:47-53; ยน 18:3-11)
26:47 และขณะที่พระองค์ตรัสยังไม่ทันขาดคำ ดูเถิด ยูดาส คนหนึ่งในสิบสองคนนั้น ได้มา และพร้อมกับเขามีประชาชนเป็นอันมาก พร้อมด้วยดาบหลายเล่มและไม้ตะบองหลายอัน มาจากพวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้อาวุโสแห่งประชาชน
Betrayal and Arrest of Jesus (Mark 14:43-50; Luke 22:47-53; John 18:3-11)
26:47 And while he yet spake, lo, Judas, one of the twelve, came, and with him a great multitude with swords and staves, from the chief priests and elders of the people.26:48 บัดนี้ผู้ที่ทรยศพระองค์นั้นได้ให้อาณัติสัญญาณแก่พวกเขา โดยกล่าวว่า เราจะจุบผู้ใด ก็เป็นผู้นั้นแหละ จงจับกุมเขาไว้ให้แน่นหนาเถิด
26:48 Now he that betrayed him gave them a sign, saying, Whomsoever I shall kiss, that same is he: hold him fast.26:49 และในทันใดนั้น ยูดาสมาหาพระเยซู และกล่าวว่า สวัสดี พระอาจารย์ และจุบพระองค์
26:49 And forthwith he came to Jesus, and said, Hail, master; and kissed him.26:50 และพระเยซูตรัสกับเขาว่า สหายเอ๋ย ท่านมาที่นี่ทำไม แล้วคนเหล่านั้นก็มา และลงมือจับพระเยซู และคุมตัวพระองค์ไป
26:50 And Jesus said unto him, Friend, wherefore art thou come? Then came they, and laid hands on Jesus, and took him.26:51 และดูเถิด คนหนึ่งในคนเหล่านั้นซึ่งอยู่กับพระเยซู ยื่นมือของตนออก และชักดาบของตน และฟันผู้รับใช้คนหนึ่งของมหาปุโรหิต และตัดหูของเขาขาด
26:51 And, behold, one of them which were with Jesus stretched out his hand, and drew his sword, and struck a servant of the high priest's, and smote off his ear.26:52 แล้วพระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า จงเอาดาบของท่านใส่ฝักเสีย ด้วยว่าบรรดาผู้ที่ถือดาบจะพินาศพร้อมกับดาบ
26:52 Then said Jesus unto him, Put up again thy sword into his place: for all they that take the sword shall perish with the sword.26:53 ท่านคิดว่า บัดนี้เราไม่สามารถอธิษฐานต่อพระบิดาของเรา และในบัดเดี๋ยวนั้นพระองค์จะประทานพวกทูตสวรรค์แก่เรามากกว่าสิบสองกองหรือ
26:53 Thinkest thou that I cannot now pray to my Father, and he shall presently give me more than twelve legions of angels?26:54 แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นพระคัมภีร์จะสำเร็จได้อย่างไรที่ว่า จะต้องเป็นอย่างนี้
26:54 But how then shall the scriptures be fulfilled, that thus it must be?26:55 ในชั่วโมงเดียวกันนั้นพระเยซูตรัสกับเหล่าประชาชนว่า ท่านทั้งหลายออกมาเหมือนต่อสู้กับโจรหรือ พร้อมด้วยดาบหลายเล่มและไม้ตะบองหลายอัน เพื่อจะจับเรา เราได้นั่งกับพวกท่านสั่งสอนในพระวิหารทุกวัน และพวกท่านไม่ได้จับเรา
26:55 In that same hour said Jesus to the multitudes, Are ye come out as against a thief with swords and staves for to take me? I sat daily with you teaching in the temple, and ye laid no hold on me.26:56 แต่สารพัดเหล่านี้ได้เกิดขึ้นเพื่อพระคัมภีร์ของพวกศาสดาพยากรณ์จะสำเร็จ แล้วพวกสาวกเหล่านั้นทุกคนได้ละทิ้งพระองค์ไว้และหนีไป
26:56 But all this was done, that the scriptures of the prophets might be fulfilled. Then all the disciples forsook him, and fled.พระเยซูทรงอยู่ต่อหน้าคายาฟาสและสภา (มก 14:53-65; ยน 18:12, 19-24)
26:57 และคนทั้งหลายที่ได้จับพระเยซู พาพระองค์ไปยังคายาฟาสมหาปุโรหิต ที่ซึ่งพวกธรรมาจารย์และพวกผู้อาวุโสได้ประชุมกันอยู่
Jesus before Caiaphas and Sanhedrin (Mark 14:53-65; John 18:12, 19-24)
26:57 And they that had laid hold on Jesus led him away to Caiaphas the high priest, where the scribes and the elders were assembled.26:58 แต่เปโตรได้ติดตามพระองค์ไปห่าง ๆ จนถึงคฤหาสน์ของมหาปุโรหิต และเข้าไป และนั่งกับพวกคนใช้ เพื่อจะดูจุดจบ
26:58 But Peter followed him afar off unto the high priest's palace, and went in, and sat with the servants, to see the end.26:59 บัดนี้พวกปุโรหิตใหญ่ และพวกผู้อาวุโส และบรรดาสมาชิกสภาได้หาพยานเท็จมาเบิกปรักปรำพระเยซู เพื่อจะประหารพระองค์เสีย
26:59 Now the chief priests, and elders, and all the council, sought false witness against Jesus, to put him to death;26:60 แต่หาไม่พบ ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าพยานเท็จหลายคนมา แต่พวกเขาก็หาหลักฐานไม่ได้ ในที่สุดมีพยานเท็จสองคนมา
26:60 But found none: yea, though many false witnesses came, yet found they none. At the last came two false witnesses,26:61 และกล่าวว่า คนนี้ได้กล่าวว่า เราสามารถทำลายพระวิหารของพระเจ้า และจะสร้างมันขึ้นใหม่ในสามวัน
26:61 And said, This fellow said, I am able to destroy the temple of God, and to build it in three days.26:62 และมหาปุโรหิตจึงลุกขึ้น และกล่าวแก่พระองค์ว่า ท่านจะไม่ตอบอะไรหรือ เป็นเรื่องอะไรเล่าซึ่งคนเหล่านี้เป็นพยานปรักปรำท่าน
26:62 And the high priest arose, and said unto him, Answerest thou nothing? what is it which these witness against thee?26:63 แต่พระเยซูทรงนิ่งอยู่ และมหาปุโรหิตจึงตอบและกล่าวแก่พระองค์ว่า เราสั่งท่านให้ปฏิญาณโดยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ว่า ท่านจงบอกพวกเราว่า ท่านเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่
26:63 But Jesus held his peace. And the high priest answered and said unto him, I adjure thee by the living God, that thou tell us whether thou be the Christ, the Son of God.26:64 พระเยซูตรัสกับเขาว่า ท่านว่าถูกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า ต่อจากนี้ ท่านทั้งหลายจะเห็นบุตรมนุษย์นั่งข้างขวาพระหัตถ์แห่งฤทธานุภาพ และเสด็จมาในหมู่เมฆแห่งฟ้าสวรรค์
26:64 Jesus saith unto him, Thou hast said: nevertheless I say unto you, Hereafter shall ye see the Son of man sitting on the right hand of power, and coming in the clouds of heaven.26:65 แล้วมหาปุโรหิตจึงฉีกเสื้อของตน โดยกล่าวว่า เขาได้พูดหมิ่นประมาทแล้ว พวกเราต้องการเหล่าพยานอะไรอีกเล่า ดูเถิด บัดนี้ท่านทั้งหลายก็ได้ยินคำหมิ่นประมาทของเขาแล้ว
26:65 Then the high priest rent his clothes, saying, He hath spoken blasphemy; what further need have we of witnesses? behold, now ye have heard his blasphemy.26:66 ท่านทั้งหลายคิดอะไร คนทั้งปวงก็ตอบและกล่าวว่า เขามีความผิดถึงตาย
26:66 What think ye? They answered and said, He is guilty of death.26:67 แล้วพวกเขาได้ถ่มน้ำลายรดพระพักตร์พระองค์และตีพระองค์ และคนอื่น ๆ ตบพระองค์ด้วยฝ่ามือของตน
26:67 Then did they spit in his face, and buffeted him; and others smote him with the palms of their hands,26:68 โดยกล่าวว่า พยากรณ์ให้พวกเราสิ เจ้าพระคริสต์ ว่าผู้ที่ได้ตบเจ้าเป็นใคร
26:68 Saying, Prophesy unto us, thou Christ, Who is he that smote thee?26:69 บัดนี้เปโตรนั่งอยู่ภายนอกบริเวณคฤหาสน์นั้น และสาวใช้คนหนึ่งมาหาเขา โดยกล่าวว่า เจ้าได้อยู่กับเยซูแห่งแคว้นกาลิลีด้วย
26:69 Now Peter sat without in the palace: and a damsel came unto him, saying, Thou also wast with Jesus of Galilee.26:70 แต่เขาได้ปฏิเสธต่อหน้าพวกเขาทุกคน โดยกล่าวว่า ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะไร
26:70 But he denied before them all, saying, I know not what thou sayest.26:71 และเมื่อเขาได้ออกไปที่ระเบียง สาวใช้อีกคนหนึ่งเห็นเขา และกล่าวแก่คนทั้งหลายที่อยู่ที่นั่นว่า คนนี้ได้อยู่กับเยซูแห่งนาซาเร็ธด้วย
26:71 And when he was gone out into the porch, another maid saw him, and said unto them that were there, This fellow was also with Jesus of Nazareth.26:72 และอีกครั้งเปโตรได้ปฏิเสธด้วยคำสาบานว่า ข้าไม่รู้จักคนนั้น
26:72 And again he denied with an oath, I do not know the man.26:73 และหลังจากผ่านไปสักครู่หนึ่ง คนทั้งหลายที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ นั้นก็มาหาเปโตร และกล่าวแก่เขาว่า แน่นอนเจ้าเป็นคนหนึ่งในพวกนั้นด้วย เพราะว่าสำเนียงของเจ้าก็ส่อตัวเจ้าเอง
26:73 And after a while came unto him they that stood by, and said to Peter, Surely thou also art one of them; for thy speech bewrayeth thee.26:74 แล้วเขาก็เริ่มสบถและสาบาน โดยกล่าวว่า ข้าไม่รู้จักคนนั้น และในทันใดนั้นไก่ก็ขัน
26:74 Then began he to curse and to swear, saying, I know not the man. And immediately the cock crew.26:75 และเปโตรระลึกถึงคำของพระเยซูซึ่งตรัสแก่เขาว่า ก่อนไก่ขัน ท่านจะปฏิเสธเราสามครั้ง และเขาก็ออกไปและร้องไห้อย่างขมขื่น
26:75 And Peter remembered the word of Jesus, which said unto him, Before the cock crow, thou shalt deny me thrice. And he went out, and wept bitterly.
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope