กลับหน้าแรก / Main Menu

 

มัทธิว 6 / Matthew 6

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28]

คนหน้าซื่อใจคดเสแสร้งว่าเป็นผู้เคร่งศาสนา (มธ 6:16-18)
6:1 “จงระวังให้ดีว่า ท่านทั้งหลายอย่าทำทานทั้งหลายของพวกท่านต่อหน้าผู้คน เพื่อจะถูกเห็นโดยพวกเขา มิฉะนั้นพวกท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของพวกท่านผู้ซึ่งทรงสถิตในสวรรค์

The Hypocrisy of Open Religious Acts (Matt. 6:16-18)
6:1 Take heed that ye do not your alms before men, to be seen of them: otherwise ye have no reward of your Father which is in heaven.

6:2 เหตุฉะนั้น เมื่อท่านทำทานทั้งหลายของท่าน อย่าเป่าแตรข้างหน้าท่านเหมือนอย่างพวกคนหน้าซื่อใจคดกระทำในธรรมศาลาทั้งหลายและตามถนน เพื่อพวกเขาจะได้รับการสรรเสริญจากผู้คน เรากล่าวความจริงแก่พวกท่านว่า พวกเขาได้รับบำเหน็จของพวกเขาแล้ว

6:2 Therefore when thou doest thine alms, do not sound a trumpet before thee, as the hypocrites do in the synagogues and in the streets, that they may have glory of men. Verily I say unto you, They have their reward.

6:3 แต่เมื่อพวกท่านทำทานทั้งหลาย อย่าให้มือซ้ายของท่านทราบว่ามือขวาของท่านกระทำอะไร

6:3 But when thou doest alms, let not thy left hand know what thy right hand doeth:

6:4 เพื่อทานทั้งหลายของท่านจะเป็นการลับ และพระบิดาของท่านผู้ซึ่งทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับ พระองค์เองจะโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

6:4 That thine alms may be in secret: and thy Father which seeth in secret himself shall reward thee openly.

6:5 และเมื่อท่านอธิษฐาน ท่านอย่าเป็นเหมือนพวกคนหน้าซื่อใจคด เพราะพวกเขาชอบอธิษฐานโดยยืนอยู่ในธรรมศาลาทั้งหลายและในบรรดามุมถนน เพื่อพวกเขาจะถูกเห็นโดยคนทั้งหลาย เรากล่าวความจริงแก่พวกท่านว่า พวกเขาได้รับบำเหน็จของพวกเขาแล้ว

6:5 And when thou prayest, thou shalt not be as the hypocrites are: for they love to pray standing in the synagogues and in the corners of the streets, that they may be seen of men. Verily I say unto you, They have their reward.

6:6 แต่ท่าน เมื่อท่านอธิษฐาน จงเข้าในห้องชั้นในของท่าน และเมื่อท่านปิดประตูของท่านแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ซึ่งทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ซึ่งทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

6:6 But thou, when thou prayest, enter into thy closet, and when thou hast shut thy door, pray to thy Father which is in secret; and thy Father which seeth in secret shall reward thee openly.

6:7 แต่เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าใช้คำซ้ำซากไร้ประโยชน์เหมือนอย่างพวกคนต่างชาติกระทำ เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาจะถูกได้ยินเพราะการพูดมากของพวกเขา

6:7 But when ye pray, use not vain repetitions, as the heathen do: for they think that they shall be heard for their much speaking.

แบบอย่างแห่งการอธิษฐาน (ลก 11:1-4)
6:8 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายอย่าเป็นเหมือนพวกเขาเลย เพราะว่าพระบิดาของพวกท่านทรงทราบว่าพวกท่านต้องการสิ่งใดบ้าง ก่อนที่พวกท่านทูลขอจากพระองค์แล้ว

The Model Prayer (Luke 11:1-4)
6:8 Be not ye therefore like unto them: for your Father knoweth what things ye have need of, before ye ask him.

6:9 เหตุฉะนั้น ตามลักษณะนี้ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานว่า ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ซึ่งทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ

6:9 After this manner therefore pray ye: Our Father which art in heaven, Hallowed be thy name.

6:10 ขอให้อาณาจักรของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์ถูกกระทำในแผ่นดินโลก เหมือนอย่างที่น้ำพระทัยของพระองค์ถูกกระทำในสวรรค์

6:10 Thy kingdom come. Thy will be done in earth, as it is in heaven.

6:11 ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้

6:11 Give us this day our daily bread.

6:12 และขอโปรดยกหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลาย เหมือนอย่างข้าพระองค์ทั้งหลายยกหนี้คนเหล่านั้นที่เป็นหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายนั้น

6:12 And forgive us our debts, as we forgive our debtors.

6:13 และขออย่าทรงนำข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าไปในการทดลอง แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากความชั่วร้าย ด้วยว่าอาณาจักรและฤทธิ์เดชและสง่าราศีเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ เอเมน

6:13 And lead us not into temptation, but deliver us from evil: For thine is the kingdom, and the power, and the glory, for ever. Amen.

6:14 เพราะว่าถ้าท่านทั้งหลายยกบรรดาการละเมิดของมนุษย์ให้แก่พวกเขา พระบิดาของพวกท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะโปรดยกโทษให้พวกท่านด้วย

6:14 For if ye forgive men their trespasses, your heavenly Father will also forgive you:

6:15 แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ยกโทษบรรดาการละเมิดของมนุษย์ให้แก่พวกเขา พระบิดาของพวกท่านจะไม่โปรดยกโทษบรรดาการละเมิดของพวกท่านเหมือนกัน

6:15 But if ye forgive not men their trespasses, neither will your Father forgive your trespasses.

การอดอาหารจากใจจริง
6:16 ยิ่งกว่านั้นเมื่อท่านทั้งหลายอดอาหาร อย่าเป็นเหมือนพวกคนหน้าซื่อใจคด ที่ทำหน้าเศร้าหมอง ด้วยว่าพวกเขาทำหน้าของตนให้ดูโทรม เพื่อพวกเขาจะได้ปรากฏแก่คนทั้งหลายว่ากำลังอดอาหารอยู่ เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกเขาได้รับบำเหน็จของพวกเขาแล้ว

Fasting from the Heart
6:16 Moreover when ye fast, be not, as the hypocrites, of a sad countenance: for they disfigure their faces, that they may appear unto men to fast. Verily I say unto you, They have their reward.

6:17 แต่ท่าน เมื่อท่านอดอาหาร จงชโลมทาศีรษะของท่าน และล้างหน้าของท่าน

6:17 But thou, when thou fastest, anoint thine head, and wash thy face;

6:18 เพื่อท่านจะไม่ปรากฏแก่คนทั้งหลายว่ากำลังอดอาหารอยู่ แต่ให้ปรากฏแก่พระบิดาของท่านผู้ซึ่งทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ซึ่งทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับ จะโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

6:18 That thou appear not unto men to fast, but unto thy Father which is in secret: and thy Father, which seeth in secret, shall reward thee openly.

จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้บนสวรรค์
6:19 อย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวพวกท่านเองบนแผ่นดินโลก อันเป็นที่ซึ่งตัวมอดและสนิมทำลายเสียได้ และเป็นที่ซึ่งพวกขโมยขุดช่องและลักเอาไปได้

Lay Up Treasures Above
6:19 Lay not up for yourselves treasures upon earth, where moth and rust doth corrupt, and where thieves break through and steal:

6:20 แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวพวกท่านเองในสวรรค์ อันเป็นที่ซึ่งตัวมอดและสนิมทำลายเสียไม่ได้ และเป็นที่ซึ่งพวกขโมยไม่ขุดช่องหรือลักเอาไปได้

6:20 But lay up for yourselves treasures in heaven, where neither moth nor rust doth corrupt, and where thieves do not break through nor steal:

6:21 เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน ใจของท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย

6:21 For where your treasure is, there will your heart be also.

6:22 ประทีปของร่างกายคือดวงตา เหตุฉะนั้นถ้าดวงตาของท่านปกติดี ทั้งตัวของท่านก็จะเต็มไปด้วยความสว่าง

6:22 The light of the body is the eye: if therefore thine eye be single, thy whole body shall be full of light.

6:23 แต่ถ้าดวงตาของท่านชั่วร้าย ทั้งตัวของท่านก็จะเต็มไปด้วยความมืด เหตุฉะนั้นถ้าความสว่างซึ่งอยู่ในตัวท่านเป็นความมืด ความมืดนั้นจะมากมายสักเพียงใด

6:23 But if thine eye be evil, thy whole body shall be full of darkness. If therefore the light that is in thee be darkness, how great is that darkness!

6:24 ไม่มีผู้ใดสามารถปรนนิบัตินายสองนายได้ เพราะเขาจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง หรือมิฉะนั้นเขาจะยึดมั่นกับนายคนหนึ่ง และจะเหยียดหยามนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายไม่สามารถปรนนิบัติพระเจ้าและความมั่งคั่งพร้อมกันได้

6:24 No man can serve two masters: for either he will hate the one, and love the other; or else he will hold to the one, and despise the other. Ye cannot serve God and mammon.

จงแสวงหาทางของพระเจ้าก่อน
6:25 เหตุฉะนั้น เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า พวกท่านจะเอาอะไรกิน หรือพวกท่านจะเอาอะไรดื่ม และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่า พวกท่านจะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหารมิใช่หรือ และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ

Seek First God's Way
6:25 Therefore I say unto you, Take no thought for your life, what ye shall eat, or what ye shall drink; nor yet for your body, what ye shall put on. Is not the life more than meat, and the body than raiment?

6:26 จงดูบรรดานกแห่งฟ้าอากาศ ด้วยว่าพวกมันมิได้หว่าน และพวกมันมิได้เกี่ยว และมิได้สะสมไว้ในยุ้งฉางทั้งหลาย ถึงอย่างนั้นพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ของท่านทั้งหลายยังทรงเลี้ยงดูพวกนกไว้ ท่านทั้งหลายไม่ประเสริฐกว่าพวกนกตั้งเยอะหรือ

6:26 Behold the fowls of the air: for they sow not, neither do they reap, nor gather into barns; yet your heavenly Father feedeth them. Are ye not much better than they?

6:27 มีใครบ้างในพวกท่าน โดยความกระวนกระวาย สามารถเพิ่มหนึ่งศอกเข้ากับความสูงของเขาได้

6:27 Which of you by taking thought can add one cubit unto his stature?

6:28 และทำไมท่านทั้งหลายกระวนกระวายถึงเครื่องนุ่งห่มเล่า จงพิจารณาบรรดาดอกลิลลี่แห่งทุ่งนาว่า พวกมันงอกงามเจริญขึ้นได้อย่างไร พวกมันไม่ทำงาน และพวกมันไม่ปั่นด้าย

6:28 And why take ye thought for raiment? Consider the lilies of the field, how they grow; they toil not, neither do they spin:

6:29 และถึงอย่างนั้นเรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า แม้แต่ซาโลมอนในสง่าราศีทั้งสิ้นของท่าน ก็มิได้แต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนอย่างดอกหนึ่งในดอกลิลลี่เหล่านี้

6:29 And yet I say unto you, That even Solomon in all his glory was not arrayed like one of these.

6:30 เหตุฉะนั้น ถ้าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าแห่งทุ่งนาอย่างนั้น ซึ่งเป็นอยู่วันนี้และรุ่งขึ้นถูกทิ้งในเตาไฟ พระองค์จะไม่ทรงตกแต่งพวกท่านมากยิ่งกว่านั้นหรือ โอ พวกท่าน ผู้มีความเชื่อน้อย

6:30 Wherefore, if God so clothe the grass of the field, which to day is, and to morrow is cast into the oven, shall he not much more clothe you, O ye of little faith?

6:31 เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายเลย โดยกล่าวว่า ‘พวกเราจะเอาอะไรกิน’ หรือ ‘พวกเราจะเอาอะไรดื่ม’ หรือ ‘พวกเราจะเอาอะไรนุ่งห่ม’

6:31 Therefore take no thought, saying, What shall we eat? or, What shall we drink? or, Wherewithal shall we be clothed?

6:32 (เพราะว่าพวกคนต่างชาติแสวงหาสิ่งสารพัดเหล่านี้) ด้วยว่าพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ของพวกท่านทรงทราบแล้วว่า พวกท่านต้องการสิ่งสารพัดเหล่านี้

6:32 (For after all these things do the Gentiles seek:) for your heavenly Father knoweth that ye have need of all these things.

6:33 แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน และสิ่งสารพัดเหล่านี้จะถูกเพิ่มเติมให้แก่พวกท่าน

6:33 But seek ye first the kingdom of God, and his righteousness; and all these things shall be added unto you.

6:34 เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงวันพรุ่งนี้ เพราะว่าวันพรุ่งนี้ก็จะมีการกระวนกระวายสำหรับสิ่งทั้งหลายของวันพรุ่งนี้เอง ความชั่วร้ายของวันนั้นก็เพียงพอสำหรับวันนั้นอยู่แล้ว”

6:34 Take therefore no thought for the morrow: for the morrow shall take thought for the things of itself. Sufficient unto the day is the evil thereof.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope