กลับหน้าแรก / Main Menu

 

ฮีบรู 1 / Hebrews 1

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13]

สง่าราศีของพระบุตรและพระราชกิจของพระองค์
1:1 พระเจ้า ผู้ได้ตรัสในวาระต่าง ๆ และในวิธีอันหลากหลาย ในสมัยก่อนแก่บรรพบุรุษโดยพวกศาสดาพยากรณ์

The Glory of the Son and His Work
1:1 God, who at sundry times and in divers manners spake in time past unto the fathers by the prophets,

1:2 ในวันสุดท้ายเหล่านี้ได้ตรัสแก่เราทั้งหลายโดยพระบุตรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงตั้งให้เป็นทายาทผู้รับสรรพสิ่งทั้งปวงเป็นมรดก ซึ่งโดยพระบุตรนั้นพระองค์ได้ทรงสร้างกัลปจักรวาลด้วย

1:2 Hath in these last days spoken unto us by his Son, whom he hath appointed heir of all things, by whom also he made the worlds;

1:3 ผู้ทรงเป็นความเจิดจ้าแห่งสง่าราศีของพระเจ้า และทรงเป็นพระฉายที่ปรากฏชัดแห่งตัวตนของพระองค์ และทรงผดุงสรรพสิ่งไว้โดยพระดำรัสแห่งฤทธิ์อำนาจของพระองค์ เมื่อพระบุตรได้ทรงชำระบาปทั้งหลายของพวกเราโดยพระองค์เองแล้ว ก็ได้ประทับนั่ง ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของผู้ทรงเดชานุภาพเบื้องบน

1:3 Who being the brightness of his glory, and the express image of his person, and upholding all things by the word of his power, when he had by himself purged our sins, sat down on the right hand of the Majesty on high;

พระบุตรทรงอยู่เหนือพวกทูตสวรรค์
1:4 โดยทรงถูกทำให้ดีกว่าเหล่าทูตสวรรค์มากนัก ตามที่พระองค์ทรงได้รับพระนามที่ประเสริฐกว่าเหล่าทูตสวรรค์นั้นเป็นมรดก

The Son Is above the Angels
1:4 Being made so much better than the angels, as he hath by inheritance obtained a more excellent name than they.

1:5 เพราะว่ามีผู้ใดบ้างในบรรดาทูตสวรรค์ที่พระองค์ได้ตรัสในเวลาใดว่า ‘ท่านเป็นบุตรของเรา วันนี้เราได้ให้กำเนิดท่านแล้ว’ และอีกครั้งว่า ‘เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา’

1:5 For unto which of the angels said he at any time, Thou art my Son, this day have I begotten thee? And again, I will be to him a Father, and he shall be to me a Son?

1:6 และอีกครั้ง เมื่อพระองค์ทรงนำพระบุตรหัวปีที่ได้บังเกิดนั้นให้เสด็จเข้ามาในโลก พระองค์ก็ตรัสว่า ‘และให้บรรดาพวกทูตสวรรค์ทั้งสิ้นของพระเจ้านมัสการท่าน’

1:6 And again, when he bringeth in the firstbegotten into the world, he saith, And let all the angels of God worship him.

1:7 และเกี่ยวกับพวกทูตสวรรค์นั้น พระองค์ตรัสว่า ‘พระองค์ผู้ทรงบันดาลพวกทูตสวรรค์ของพระองค์ให้เป็นเหล่าวิญญาณ และทรงบันดาลบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ให้เป็นเปลวเพลิง’

1:7 And of the angels he saith, Who maketh his angels spirits, and his ministers a flame of fire.

1:8 แต่แก่พระบุตรนั้น พระองค์ตรัสว่า ‘พระที่นั่งของพระองค์ โอ พระเจ้าข้า ดำรงอยู่เป็นนิตย์และเป็นนิตย์ ธารพระกรแห่งความชอบธรรมเป็นธารพระกรแห่งอาณาจักรของพระองค์

1:8 But unto the Son he saith, Thy throne, O God, is for ever and ever: a sceptre of righteousness is the sceptre of thy kingdom.

1:9 พระองค์ได้ทรงรักความชอบธรรม และได้ทรงเกลียดชังความชั่วช้า เพราะฉะนั้นพระเจ้าคือ พระเจ้าของพระองค์ ได้ทรงเจิมพระองค์ไว้ด้วยน้ำมันแห่งความยินดียิ่งกว่าพระสหายทั้งปวงของพระองค์’

1:9 Thou hast loved righteousness, and hated iniquity; therefore God, even thy God, hath anointed thee with the oil of gladness above thy fellows.

1:10 และ ‘พระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้าเจ้าข้า ในเริ่มแรกนั้นได้ทรงวางรากฐานของแผ่นดินโลก และฟ้าสวรรค์ทั้งหลายเป็นบรรดาพระราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์

1:10 And, Thou, Lord, in the beginning hast laid the foundation of the earth; and the heavens are the works of thine hands:

1:11 สิ่งเหล่านี้จะพินาศไป แต่พระองค์ทรงดำรงอยู่ และสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นจะเก่าไปเหมือนอย่างเครื่องนุ่งห่ม

1:11 They shall perish; but thou remainest; and they all shall wax old as doth a garment;

1:12 และเหมือนอย่างเสื้อคลุมพระองค์จะทรงพับสิ่งเหล่านี้ไว้ และสิ่งเหล่านั้นก็จะถูกเปลี่ยนแปลงไป แต่พระองค์ยังทรงเป็นเหมือนเดิม และปีเดือนทั้งหลายของพระองค์จะไม่สิ้นสุด’

1:12 And as a vesture shalt thou fold them up, and they shall be changed: but thou art the same, and thy years shall not fail.

1:13 แต่แก่ทูตสวรรค์องค์ใดเล่าที่พระองค์ได้ตรัสในเวลาใดว่า ‘จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะกระทำให้บรรดาศัตรูของท่านเป็นแท่นรองเท้าของท่าน’

1:13 But to which of the angels said he at any time, Sit on my right hand, until I make thine enemies thy footstool?

1:14 ทูตสวรรค์ทั้งสิ้นนั้นเป็นบรรดาวิญญาณผู้ปรนนิบัติ ที่ถูกส่งไปให้ปรนนิบัติคนเหล่านั้นที่จะเป็นทายาททั้งหลายแห่งความรอดมิใช่หรือ

1:14 Are they not all ministering spirits, sent forth to minister for them who shall be heirs of salvation?

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope