กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

1 พงศ์กษัตริย์ 3

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22]

ซาโลมอนทรงอภิเษกสมรสกับราชธิดาของฟาโรห์
3:1 และซาโลมอนทรงสร้างสายสัมพันธ์กับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ และทรงรับราชธิดาของฟาโรห์ และทรงนำพระนางเข้ามาอาศัยอยู่ในนครของดาวิด จนกระทั่งพระองค์ทรงสร้างพระราชวังของพระองค์เอง และพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์ และกำแพงรอบกรุงเยรูซาเล็มสำเร็จ
3:2 เว้นแต่ประชากรได้ถวายสัตวบูชาในสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย เพราะยังไม่ได้สร้างพระนิเวศน์ถวายแด่พระนามของพระเยโฮวาห์ จนถึงวันเหล่านั้น
3:3 และซาโลมอนทรงรักพระเยโฮวาห์ โดยดำเนินในบรรดากฎเกณฑ์ของดาวิดราชบิดาของพระองค์ เว้นแต่พระองค์ได้ทรงถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมในสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย

ซาโลมอนทรงถวายเครื่องสัตวบูชาและทูลขอสติปัญญา (2 พศด 1:2-13)
3:4 และกษัตริย์ได้เสด็จไปที่เมืองกิเบโอนเพื่อถวายสัตวบูชาที่นั่น เพราะที่นั่นเป็นสถานบูชาบนที่สูงที่ใหญ่มาก ซาโลมอนได้ทรงถวายเครื่องเผาบูชาหนึ่งพันตัวบนแท่นบูชานั้น
3:5 พระเยโฮวาห์ทรงปรากฏแก่ซาโลมอนที่เมืองกิเบโอนเป็นความฝันในเวลากลางคืน และพระเจ้าตรัสว่า “จงขอสิ่งที่เจ้าอยากได้จากเรา”
3:6 และซาโลมอนทูลว่า “พระองค์ได้ทรงสำแดงความเมตตาอันใหญ่หลวงแก่ดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์ผู้รับใช้ของพระองค์ ตามที่เสด็จพ่อดำเนินต่อพระพักตร์พระองค์ในความจริง และในความชอบธรรม และความเที่ยงตรงแห่งใจต่อพระองค์ และพระองค์ได้ทรงรักษาความกรุณายิ่งใหญ่นี้ไว้เพื่อเสด็จพ่อ ที่พระองค์ได้ประทานบุตรชายคนหนึ่งแก่เสด็จพ่อเพื่อนั่งบนพระที่นั่งของเสด็จพ่อ ตามที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
3:7 และบัดนี้ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ได้ทรงกระทำให้ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นกษัตริย์แทนดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์ และข้าพระองค์เป็นแต่เด็กน้อย ข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะออกไปหรือเข้ามาอย่างไรถูก
3:8 และผู้รับใช้ของพระองค์อยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกไว้ เป็นชนชาติใหญ่ ที่ไม่สามารถนับหรือคำนวณได้เพราะมีจำนวนมหาศาล
3:9 เพราะฉะนั้น ขอประทานใจอันประกอบด้วยความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อจะวินิจฉัยประชากรของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างความดีและความชั่ว เพราะว่าผู้ใดเล่าจะสามารถวินิจฉัยประชากรมหาศาลเช่นนี้ของพระองค์ได้”
3:10 และการทูลขอนี้เป็นที่พอพระทัยต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ซาโลมอนได้ทูลขอสิ่งนี้
3:11 และพระเจ้าตรัสกับซาโลมอนว่า “เพราะเจ้าได้ขอสิ่งนี้ และไม่ได้ขอชีวิตยืนยาวสำหรับตัวเจ้าเอง และไม่ได้ขอความมั่งคั่งสำหรับตัวเจ้าเอง และไม่ได้ขอชีวิตของบรรดาศัตรูของเจ้าสำหรับตัวเจ้าเอง แต่ได้ขอความเข้าใจสำหรับตัวเจ้าเองเพื่อแยกแยะความแตกต่างในการวินิจฉัย
3:12 ดูเถิด เราได้กระทำตามบรรดาถ้อยคำของเจ้า ดูเถิด เราได้ให้ใจอันประกอบด้วยสติปัญญาและความเข้าใจ จนไม่มีผู้ใดที่เป็นเหมือนเจ้าก่อนเจ้า และจะไม่มีใครที่ขึ้นมาภายหลังเจ้าเป็นเหมือนเจ้าเลย
3:13 และเราได้ให้สิ่งซึ่งเจ้าไม่ได้ขอแก่เจ้าด้วย ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติยศ เพื่อว่าจะไม่มีองค์หนึ่งองค์ใดในท่ามกลางกษัตริย์ทั้งหลายที่จะเป็นเหมือนกับเจ้าเลย ตลอดวันทั้งสิ้นของเจ้า
3:14 และถ้าเจ้าจะดำเนินในทางทั้งหลายของเรา เพื่อรักษาบรรดากฎเกณฑ์ของเรา และบัญญัติทั้งหลายของเรา ตามที่ดาวิดบิดาของเจ้าได้ดำเนินนั้น แล้วเราจะให้วันทั้งหลายของเจ้ายืนยาวขึ้น”
3:15 และซาโลมอนก็ตื่นบรรทม และดูเถิด เป็นความฝัน และพระองค์ได้เสด็จมาที่กรุงเยรูซาเล็ม และประทับยืนอยู่ต่อหน้าหีบแห่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ และถวายบรรดาเครื่องเผาบูชาและถวายเครื่องสันติบูชาทั้งหลาย และพระราชทานเลี้ยงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์

การพิสูจน์สติปัญญาของซาโลมอน
3:16 แล้วหญิงสองคนที่เป็นโสเภณีมาเฝ้ากษัตริย์ และยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
3:17 และหญิงคนหนึ่งทูลว่า “โอ ข้าแต่เจ้านายของข้าพระองค์ ข้าพระองค์และผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน และข้าพระองค์ได้คลอดบุตรคนหนึ่งขณะที่นางนั้นก็อยู่ในบ้าน
3:18 และต่อมา ในวันที่สามหลังจากข้าพระองค์ได้คลอดบุตรแล้ว หญิงคนนี้ได้คลอดบุตรด้วย และข้าพระองค์ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ไม่มีคนแปลกหน้าคนใดอยู่กับข้าพระองค์ทั้งสองในบ้านนั้น มีแต่ข้าพระองค์สองคนอยู่ในบ้านนั้น
3:19 และบุตรของหญิงคนนี้ก็ตายเสียในเวลากลางคืน เพราะนางนอนทับบุตรนั้น
3:20 และนางได้ลุกขึ้นในเวลาเที่ยงคืน และเอาบุตรชายของข้าพระองค์ไปจากข้างข้าพระองค์ ขณะที่สาวใช้ของพระองค์หลับอยู่ และวางบุตรนั้นไว้ในอกของนาง และเอาบุตรของนางที่ตายแล้วนั้นวางไว้ในอกของข้าพระองค์
3:21 และเมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้นในตอนเช้าเพื่อจะให้บุตรของข้าพระองค์กินนม ดูเถิด ทารกนั้นตายเสียแล้ว แต่เมื่อข้าพระองค์ได้พินิจดูในตอนเช้า ดูเถิด ทารกนั้นไม่ใช่บุตรชายของข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ได้คลอดมา”
3:22 และหญิงอีกคนนั้นพูดว่า “ไม่ใช่ แต่ทารกที่มีชีวิตอยู่นั้น เป็นบุตรชายของฉัน และทารกที่ตายเป็นบุตรชายของเธอ” และหญิงคนแรกนั้นพูดว่า “ไม่ใช่ แต่ทารกที่ตายเป็นบุตรชายของเธอ และทารกที่มีชีวิตอยู่นั้น เป็นบุตรชายของฉัน” นางทั้งสองพูดกันดังนี้ต่อพระพักตร์กษัตริย์
3:23 แล้วกษัตริย์ตรัสว่า “คนหนึ่งพูดว่า ‘นี่เป็นบุตรชายของฉันที่มีชีวิตอยู่ และบุตรชายของเธอเป็นทารกที่ตายแล้ว’ และอีกคนนั้นพูดว่า ‘ไม่ใช่ แต่บุตรชายของเธอเป็นที่ตายแล้ว และบุตรชายของฉันเป็นที่มีชีวิตอยู่’”
3:24 และกษัตริย์ตรัสว่า “เอาดาบเล่มหนึ่งมาให้เรา” และพวกเขาได้เอาดาบเล่มหนึ่งมาต่อพระพักตร์กษัตริย์
3:25 และกษัตริย์ตรัสว่า “จงแบ่งทารกที่มีชีวิตอยู่นั้นออกเป็นสองท่อน และให้ครึ่งหนึ่งแก่คนหนึ่ง และครึ่งหนึ่งแก่อีกคนนั้น”
3:26 แล้วหญิงคนที่บุตรของตนยังมีชีวิตอยู่นั้นทูลกษัตริย์ เพราะว่าจิตใจของนางอาลัยในบุตรชายของนาง และนางทูลว่า “โอ ข้าแต่เจ้านายของข้าพระองค์ ขอทรงมอบทารกที่มีชีวิตอยู่นั้นให้เขาไปเถิด และขออย่าฆ่าทารกนั้นเลย” แต่หญิงอีกคนนั้นพูดว่า “อย่าให้ทารกนี้เป็นของฉันหรือของเธอเลย แต่แบ่งทารกออกเป็นสองท่อนเถิด”
3:27 แล้วกษัตริย์ทรงตอบและตรัสว่า “จงให้ทารกที่มีชีวิตอยู่แก่นางนั้น และอย่าฆ่าทารกนั้นเลย นางเป็นมารดาของทารกนั้น”
3:28 และคนอิสราเอลทั้งสิ้นได้ยินเรื่องการพิพากษาซึ่งกษัตริย์ได้ทรงพิพากษานั้น และพวกเขาก็เกรงกลัวกษัตริย์ เพราะพวกเขาเห็นว่า พระสติปัญญาของพระเจ้าอยู่ในพระองค์เพื่อกระทำการพิพากษา

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope