กลับหน้าแรก / Main Menu

 

อพยพ 16 / Exodus 16

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40]

พระเจ้าประทานอาหารอย่างอัศจรรย์
16:1 และพวกเขาไปในการเดินทางของพวกเขาจากตำบลเอลิม และชุมนุมชนแห่งลูกหลานของอิสราเอลทั้งหมดก็มาถึงถิ่นทุรกันดารแห่งสีน ซึ่งอยู่ระหว่างตำบลเอลิมกับภูเขาซีนาย ในวันที่สิบห้าของเดือนที่สอง หลังจากการออกเดินทางของพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์

Bread and Meat are Miraculously Given
16:1 And they took their journey from Elim, and all the congregation of the children of Israel came unto the wilderness of Sin, which is between Elim and Sinai, on the fifteenth day of the second month after their departing out of the land of Egypt.

16:2 และชุมนุมชนทั้งหมดแห่งลูกหลานของอิสราเอลก็บ่นต่อว่าโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดารนั้น

16:2 And the whole congregation of the children of Israel murmured against Moses and Aaron in the wilderness:

16:3 และลูกหลานของอิสราเอลกล่าวแก่ท่านทั้งสองว่า “พระเจ้าน่าจะให้พวกเราตายเสียโดยพระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์ในแผ่นดินอียิปต์ เมื่อพวกเราเคยนั่งอยู่ใกล้หม้อต้มเนื้อ และเมื่อพวกเราเคยรับประทานอาหารจนอิ่มหนำ ด้วยว่าท่านทั้งสองได้นำพวกเราออกมาเข้าสู่ถิ่นทุรกันดารนี้ เพื่อจะฆ่าชุมนุมชนทั้งหมดนี้ด้วยความหิว”

16:3 And the children of Israel said unto them, Would to God we had died by the hand of the LORD in the land of Egypt, when we sat by the flesh pots, and when we did eat bread to the full; for ye have brought us forth into this wilderness, to kill this whole assembly with hunger.

16:4 แล้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “ดูเถิด เราจะให้อาหารตกลงมาจากฟ้าสวรรค์สำหรับพวกเจ้า และประชากรจะออกไปและเก็บทุกวันพอกินเฉพาะวันหนึ่ง ๆ เพื่อเราจะได้พิสูจน์พวกเขา ว่าพวกเขาจะเดินในราชบัญญัติของเราหรือไม่

16:4 Then said the LORD unto Moses, Behold, I will rain bread from heaven for you; and the people shall go out and gather a certain rate every day, that I may prove them, whether they will walk in my law, or no.

16:5 และจะเป็นไปอย่างนี้ คือในวันที่หก พวกเขาจะจัดเตรียมของซึ่งพวกเขานำเข้ามา และอาหารนั้นก็จะเพิ่มเป็นสองเท่าของที่พวกเขาเก็บทุกวัน”

16:5 And it shall come to pass, that on the sixth day they shall prepare that which they bring in; and it shall be twice as much as they gather daily.

16:6 และโมเสสกับอาโรนกล่าวแก่ลูกหลานของอิสราเอลทั้งปวงว่า “ในเวลาเย็น แล้วพวกท่านจะทราบว่าพระเยโฮวาห์ได้ทรงนำพวกท่านออกมาจากแผ่นดินอียิปต์

16:6 And Moses and Aaron said unto all the children of Israel, At even, then ye shall know that the LORD hath brought you out from the land of Egypt:

16:7 และในเวลาเช้า แล้วพวกท่านจะเห็นสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์ทรงได้ยินคำบ่นต่อว่าทั้งหลายของพวกท่านต่อพระเยโฮวาห์ และเราทั้งสองเป็นอะไรเล่า ที่พวกท่านบ่นต่อว่าเราทั้งสอง”

16:7 And in the morning, then ye shall see the glory of the LORD; for that he heareth your murmurings against the LORD: and what are we, that ye murmur against us?

16:8 และโมเสสกล่าวว่า “จะเป็นดังนี้ เมื่อพระเยโฮวาห์จะประทานเนื้อให้พวกท่านรับประทานในเวลาเย็น และอาหารให้รับประทานจนอิ่มในเวลาเช้า เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงได้ยินคำบ่นทั้งหลายของพวกท่านซึ่งพวกท่านบ่นต่อว่าพระองค์ และเราทั้งสองเป็นอะไรเล่า คำบ่นของพวกท่านไม่ได้ต่อว่าเราทั้งสอง แต่ต่อว่าพระเยโฮวาห์”

16:8 And Moses said, This shall be, when the LORD shall give you in the evening flesh to eat, and in the morning bread to the full; for that the LORD heareth your murmurings which ye murmur against him: and what are we? your murmurings are not against us, but against the LORD.

16:9 และโมเสสกล่าวแก่อาโรนว่า “จงกล่าวแก่ชุมนุมชนแห่งลูกหลานของอิสราเอลทั้งปวงว่า ‘จงเข้ามาใกล้ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เพราะพระองค์ทรงได้ยินคำบ่นทั้งหลายของพวกท่านแล้ว’”

16:9 And Moses spake unto Aaron, Say unto all the congregation of the children of Israel, Come near before the LORD: for he hath heard your murmurings.

16:10 และต่อมาขณะที่อาโรนกำลังกล่าวแก่ชุมนุมชนทั้งหมดแห่งลูกหลานของอิสราเอลอยู่นั้น พวกเขามองไปทางถิ่นทุรกันดาร และดูเถิด สง่าราศีของพระเยโฮวาห์ปรากฏอยู่ในเมฆนั้น

16:10 And it came to pass, as Aaron spake unto the whole congregation of the children of Israel, that they looked toward the wilderness, and, behold, the glory of the LORD appeared in the cloud.

16:11 และพระเยโฮวาห์ทรงกล่าวแก่โมเสส โดยตรัสว่า

16:11 And the LORD spake unto Moses, saying,

16:12 “เราได้ยินคำบ่นทั้งหลายของลูกหลานของอิสราเอลแล้ว จงกล่าวแก่พวกเขา โดยกล่าวว่า ‘ในเวลาเย็น พวกเจ้าจะได้กินเนื้อ และในเวลาเช้า พวกเจ้าจะได้อิ่มหนำด้วยอาหาร และพวกเจ้าจะทราบว่า เราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้า’”

16:12 I have heard the murmurings of the children of Israel: speak unto them, saying, At even ye shall eat flesh, and in the morning ye shall be filled with bread; and ye shall know that I am the LORD your God.

16:13 และต่อมาในเวลาเย็น คือฝูงนกคุ่มขึ้นมาและปกคลุมอยู่เต็มค่าย และในเวลาเช้าก็มีน้ำค้างเกาะอยู่โดยรอบพลโยธานั้น

16:13 And it came to pass, that at even the quails came up, and covered the camp: and in the morning the dew lay round about the host.

มานาเล็งถึงพระเยซู ซึ่งเป็นอาหารจากสวรรค์
16:14 และเมื่อน้ำค้างที่เกาะอยู่นั้นระเหยไปแล้ว ดูเถิด บนพื้นของถิ่นทุรกันดารนั้นมีสิ่งกลมเล็กวางอยู่ เล็กเท่าน้ำค้างแข็งบนพื้นดินนั้น

Manna Pictures Christ, the Bread from Heaven
16:14 And when the dew that lay was gone up, behold, upon the face of the wilderness there lay a small round thing, as small as the hoar frost on the ground.

16:15 และเมื่อลูกหลานของอิสราเอลเห็นสิ่งนั้น พวกเขาก็พูดกันว่า “นี่คือมานา” เพราะพวกเขาไม่ทราบว่าสิ่งนั้นคืออะไร และโมเสสกล่าวแก่พวกเขาว่า “นี่คืออาหารซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ประทานให้พวกท่านรับประทาน

16:15 And when the children of Israel saw it, they said one to another, It is manna: for they wist not what it was. And Moses said unto them, This is the bread which the LORD hath given you to eat.

16:16 นี่เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ทรงบัญชาไว้ว่า ‘ทุกคนจงเก็บอาหารนั้นมาตามการกินของตน ให้เก็บคนละหนึ่งโอเมอร์ ตามจำนวนคนของพวกเจ้า พวกเจ้าทุกคนจงเก็บสำหรับคนทั้งหลายซึ่งอยู่ในเต็นท์ของตน’”

16:16 This is the thing which the LORD hath commanded, Gather of it every man according to his eating, an omer for every man, according to the number of your persons; take ye every man for them which are in his tents.

16:17 และลูกหลานของอิสราเอลได้กระทำตาม และเก็บไว้ บางคนเก็บมาก บางคนเก็บน้อย

16:17 And the children of Israel did so, and gathered, some more, some less.

16:18 และเมื่อพวกเขาใช้โอเมอร์ตวงอาหารนั้น คนที่เก็บได้มากก็ไม่มีเหลือ และคนที่เก็บได้น้อยก็หาขาดไม่ พวกเขาทุกคนเก็บได้ตามการกินของตน

16:18 And when they did mete it with an omer, he that gathered much had nothing over, and he that gathered little had no lack; they gathered every man according to his eating.

16:19 และโมเสสกล่าวว่า “อย่าให้ผู้ใดเก็บอาหารนั้นไว้จนถึงรุ่งเช้า”

16:19 And Moses said, Let no man leave of it till the morning.

16:20 แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจฟังโมเสส แต่บางคนในพวกเขาเหลือส่วนหนึ่งไว้จนถึงรุ่งเช้า และอาหารนั้นก็เน่าเป็นตัวหนอนและบูดเหม็น และโมเสสกริ้วโกรธกับคนเหล่านั้น

16:20 Notwithstanding they hearkened not unto Moses; but some of them left of it until the morning, and it bred worms, and stank: and Moses was wroth with them.

16:21 และพวกเขาเก็บอาหารนั้นทุก ๆ เช้า ทุกคนตามการกินของตน และเมื่อดวงอาทิตย์ร้อนจัดแล้ว อาหารนั้นก็ละลายไป

16:21 And they gathered it every morning, every man according to his eating: and when the sun waxed hot, it melted.

16:22 และต่อมาเมื่อถึงวันที่หก พวกเขาเก็บอาหารเป็นสองเท่า คือคนละสองโอเมอร์ และบรรดาผู้ปกครองของชุมนุมชนได้มาและบอกโมเสส

16:22 And it came to pass, that on the sixth day they gathered twice as much bread, two omers for one man: and all the rulers of the congregation came and told Moses.

ทรงสำแดงเรื่องวันสะบาโต
16:23 และท่านกล่าวแก่พวกเขาว่า “นี่เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ตรัสไว้แล้วว่า ‘พรุ่งนี้เป็นวันหยุดพักแห่งสะบาโตอันบริสุทธิ์ถวายแด่พระเยโฮวาห์ จงอบสิ่งซึ่งพวกเจ้าจะอบวันนี้ และจงต้มสิ่งที่พวกเจ้าจะต้มเถิด และส่วนซึ่งเหลือนั้นจงเก็บไว้สำหรับพวกท่านจนถึงวันรุ่งขึ้น’”

Sabbath Made Known
16:23 And he said unto them, This is that which the LORD hath said, To morrow is the rest of the holy sabbath unto the LORD: bake that which ye will bake to day, and seethe that ye will seethe; and that which remaineth over lay up for you to be kept until the morning.

16:24 และพวกเขาเก็บอาหารนั้นไว้จนถึงวันรุ่งขึ้นตามที่โมเสสสั่ง และอาหารนั้นก็ไม่ได้บูดเหม็น และไม่มีตัวหนอนอยู่ในอาหารนั้นเลย

16:24 And they laid it up till the morning, as Moses bade: and it did not stink, neither was there any worm therein.

16:25 และโมเสสกล่าวว่า “จงกินอาหารนั้นวันนี้ เพราะว่าวันนี้เป็นวันสะบาโตถวายแด่พระเยโฮวาห์ วันนี้พวกท่านจะไม่พบอาหารนั้นในท้องทุ่งเลย

16:25 And Moses said, Eat that to day; for to day is a sabbath unto the LORD: to day ye shall not find it in the field.

16:26 พวกท่านจงเก็บอาหารนั้นในหกวัน แต่ในวันที่เจ็ดซึ่งเป็นวันสะบาโต อาหารนั้นจะไม่มีที่นั่นเลย”

16:26 Six days ye shall gather it; but on the seventh day, which is the sabbath, in it there shall be none.

16:27 และต่อมา มีบางคนในประชากรออกไปเก็บในวันที่เจ็ด และพวกเขาไม่ได้พบอะไรเลย

16:27 And it came to pass, that there went out some of the people on the seventh day for to gather, and they found none.

16:28 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “พวกเจ้าปฏิเสธที่จะรักษาบทบัญญัติทั้งหลายของเรา และราชบัญญัติต่าง ๆ ของเรานานสักเท่าไร”

16:28 And the LORD said unto Moses, How long refuse ye to keep my commandments and my laws?

16:29 “ดูซิ ด้วยว่าพระเยโฮวาห์ได้ประทานวันสะบาโตแก่พวกท่าน เพราะฉะนั้นในวันที่หก พระองค์จึงประทานอาหารให้พอรับประทานสองวัน พวกท่านทุกคนจงอาศัยอยู่ในที่พักของตน อย่าให้ผู้ใดออกไปจากที่พักของตนในวันที่เจ็ดนั้นเลย”

16:29 See, for that the LORD hath given you the sabbath, therefore he giveth you on the sixth day the bread of two days; abide ye every man in his place, let no man go out of his place on the seventh day.

16:30 ดังนั้นประชากรจึงได้หยุดพักในวันที่เจ็ด

16:30 So the people rested on the seventh day.

16:31 และวงศ์วานแห่งอิสราเอลได้เรียกชื่ออาหารนั้นว่า มานา และมานานั้นเป็นเหมือนเมล็ดผักชี มีสีขาว และรสของมานานั้นเหมือนขนมแผ่นผสมด้วยน้ำผึ้ง

16:31 And the house of Israel called the name thereof Manna: and it was like coriander seed, white; and the taste of it was like wafers made with honey.

16:32 และโมเสสกล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาไว้ว่า ‘จงตวงมานาหนึ่งโอเมอร์เพื่อเก็บไว้ตลอดชั่วอายุทั้งหลายของพวกเจ้า เพื่อพวกเขาจะเห็นอาหารซึ่งเราได้ใช้เลี้ยงพวกเจ้าในถิ่นทุรกันดารนี้ เมื่อเราได้นำพวกเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์’”

16:32 And Moses said, This is the thing which the LORD commandeth, Fill an omer of it to be kept for your generations; that they may see the bread wherewith I have fed you in the wilderness, when I brought you forth from the land of Egypt.

16:33 และโมเสสกล่าวแก่อาโรนว่า “จงเอาหม้อใบหนึ่ง และตวงมานาให้เต็มหนึ่งโอเมอร์ และเก็บไว้ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เพื่อเก็บไว้ตลอดชั่วอายุทั้งหลายของพวกท่าน”

16:33 And Moses said unto Aaron, Take a pot, and put an omer full of manna therein, and lay it up before the LORD, to be kept for your generations.

16:34 ตามที่พระเยโฮวาห์ได้ทรงบัญชาโมเสส อาโรนจึงวางมานานั้นไว้หน้าหีบพระโอวาทดังนั้น เพื่อเก็บรักษาไว้

16:34 As the LORD commanded Moses, so Aaron laid it up before the Testimony, to be kept.

16:35 และลูกหลานของอิสราเอลได้กินมานาสี่สิบปี จนพวกเขามาถึงแผ่นดินหนึ่งที่มีคนอาศัยอยู่ พวกเขาได้กินมานา จนกระทั่งพวกเขามาถึงชายแดนของแผ่นดินคานาอัน

16:35 And the children of Israel did eat manna forty years, until they came to a land inhabited; they did eat manna, until they came unto the borders of the land of Canaan.

16:36 บัดนี้หนึ่งโอเมอร์เท่ากับหนึ่งในสิบของเอฟาห์

16:36 Now an omer is the tenth part of an ephah.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope