กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

2 พงศาวดาร 20

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36]

คนโมอับบุกรุกยูดาห์
20:1 และต่อมาหลังจากเหตุการณ์นี้ด้วย คนโมอับและคนอัมโมน และพร้อมกับพวกเขามีคนอื่นนอกจากคนอัมโมนนั้น ได้ขึ้นมาเพื่อสู้รบกับเยโฮชาฟัท
20:2 แล้วมีบางคนมาทูลเยโฮชาฟัท โดยทูลว่า “มีคนหมู่ใหญ่มาต่อสู้กับพระองค์จากซีเรียข้างนี้ จากฟากทะเลข้างโน้น และดูเถิด พวกเขาอยู่ในฮาซาโซนทามาร์ ซึ่งคือเอนเกดี”
20:3 และเยโฮชาฟัทก็หวาดกลัว และตั้งพระทัยของพระองค์เพื่อแสวงหาพระเยโฮวาห์ และได้ทรงประกาศให้อดอาหารทั่วยูดาห์ทั้งสิ้น
20:4 และยูดาห์ได้รวบรวมกันเข้ามา เพื่อทูลขอความช่วยเหลือจากพระเยโฮวาห์ คือจากนครทั้งสิ้นแห่งยูดาห์พวกเขามาเพื่อแสวงหาพระเยโฮวาห์
20:5 และเยโฮชาฟัทได้ประทับยืนอยู่ในชุมนุมชนของยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์ ข้างหน้าลานใหม่
20:6 และทูลว่า “โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์ พระองค์ไม่ได้เป็นพระเจ้าในสวรรค์หรือ และพระองค์ไม่ได้ทรงครอบครองเหนือบรรดาราชอาณาจักรของพวกคนต่างชาติหรือ และในพระหัตถ์ของพระองค์ไม่มีฤทธิ์และอำนาจหรือ เพื่อที่จะไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านพระองค์ได้
20:7 พระองค์เป็นพระเจ้าของพวกข้าพระองค์ไม่ใช่หรือ ผู้ได้ทรงขับไล่ชาวแผ่นดินนี้ออกไปเสียให้พ้นหน้าอิสราเอลประชากรของพระองค์ และได้ทรงมอบแผ่นดินนี้ไว้แก่เชื้อสายของอับราฮัมมิตรสหายของพระองค์เป็นนิตย์
20:8 และพวกเขาได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น และได้สร้างสถานบริสุทธิ์แห่งหนึ่งในแผ่นดินนั้นถวายแด่พระองค์ เพื่อพระนามของพระองค์ โดยทูลว่า
20:9 ‘ถ้า เมื่อเหตุชั่วร้ายบังเกิดแก่พวกข้าพระองค์ เช่นดาบ การพิพากษา หรือโรคระบาด หรือการกันดารอาหาร พวกข้าพระองค์จะยืนอยู่ต่อหน้าพระนิเวศน์นี้ และต่อพระพักตร์พระองค์ (เพราะพระนามของพระองค์อยู่ในพระนิเวศน์นี้) และร้องทูลต่อพระองค์ในความทุกข์ใจของพวกข้าพระองค์ แล้วพระองค์ก็จะทรงสดับฟังและช่วยให้รอด’
20:10 และบัดนี้ ดูเถิด คนอัมโมนและโมอับ และภูเขาเสอีร์ ผู้ซึ่งพระองค์ไม่ทรงยอมให้คนอิสราเอลบุกรุก เมื่อพวกเขาได้ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ แต่พวกเขาได้หันไปจากคนเหล่านั้น และไม่ได้ทำลายพวกเขาเสีย
20:11 ดูเถิด ข้าพระองค์ขอทูลว่า พวกเขาได้ตอบแทนพวกข้าพระองค์อย่างไร ด้วยมาเพื่อขับพวกข้าพระองค์ออกเสียจากกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่พวกข้าพระองค์เป็นมรดก
20:12 โอ ข้าแต่พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงพิพากษาพวกเขาหรือ เพราะว่าพวกข้าพระองค์ไม่มีฤทธิ์ที่จะต่อสู้คนหมู่มหึมานี้ที่กำลังมาต่อสู้กับพวกข้าพระองค์ และพวกข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะกระทำประการใด แต่ดวงตาของพวกข้าพระองค์เพ่งมองที่พระองค์”
20:13 และคนยูดาห์ทั้งสิ้นก็ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ พร้อมกับบุตรเล็ก ๆ ทั้งหลายของพวกเขา ภรรยาของพวกเขา และลูกหลานของพวกเขา

ผู้พยากรณ์ของพระเจ้าคือยาฮาซีเอลให้คำตอบ
20:14 แล้วพระวิญญาณของพระเยโฮวาห์ได้มาสถิตอยู่กับยาฮาซีเอลบุตรชายของเศคาริยาห์ บุตรชายของเบไนยาห์ บุตรชายของเยอีเอล บุตรชายของมัทธานิยาห์ เป็นคนเลวี ลูกหลานของอาสาฟ ในท่ามกลางชุมนุมชนนั้น
20:15 และเขากล่าวว่า “ขอจงตั้งใจฟัง พวกท่าน ยูดาห์ทั้งสิ้น และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลาย และพระองค์ กษัตริย์เยโฮชาฟัท พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แก่พวกท่านว่า ‘อย่ากลัวหรือท้อถอยเลย เพราะเหตุคนหมู่มหึมานี้เลย เพราะว่าการสู้รบนั้นไม่ใช่ของพวกท่าน แต่เป็นของพระเจ้า
20:16 พรุ่งนี้พวกท่านจงลงไปเผชิญหน้าพวกเขา ดูเถิด พวกเขาจะขึ้นมาทางหน้าผาแห่งศิส และพวกท่านจะพบพวกเขาที่ปลายลำธาร ข้างหน้าถิ่นทุรกันดารแห่งเยรูเอล
20:17 พวกท่านจะไม่ต้องต่อสู้ในการสู้รบนี้ พวกท่านจงเข้าประจำที่ พวกท่านจงยืนนิ่งอยู่ และคอยดูความรอดของพระเยโฮวาห์เพื่อพวกท่าน โอ ยูดาห์และเยรูซาเล็มเอ๋ย’ อย่ากลัวหรือท้อถอยเลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้าพวกเขา เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงสถิตอยู่กับพวกท่าน”
20:18 และเยโฮชาฟัทโน้มพระเศียรก้มพระพักตร์พระองค์ลงถึงดิน และยูดาห์ทั้งสิ้นกับชาวกรุงเยรูซาเล็มได้กราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ นมัสการพระเยโฮวาห์
20:19 และคนเลวี จากลูกหลานของคนโคฮาท และลูกหลานของคนโคราห์ ได้ยืนขึ้นเพื่อถวายสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยเสียงอันดังในที่สูง

พระเจ้าทรงประหารพวกทหารที่บุกรุกอิสราเอล
20:20 และพวกเขาได้ลุกขึ้นแต่เช้า และออกไปในถิ่นทุรกันดารแห่งเทโคอา และขณะที่พวกเขาออกไป เยโฮชาฟัทประทับยืนและตรัสว่า “จงฟังข้าพเจ้า โอ ยูดาห์และพวกท่านชาวกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเชื่อในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ดังนั้นพวกท่านจึงจะตั้งมั่นคงอยู่ จงเชื่อบรรดาผู้พยากรณ์ของพระองค์ ดังนั้นพวกท่านจึงจะเจริญ”
20:21 และเมื่อพระองค์ได้ปรึกษากับประชากรแล้ว พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งบรรดาผู้ที่จะร้องเพลงถวายพระเยโฮวาห์ และให้สรรเสริญพระองค์ในความสง่างามแห่งความบริสุทธิ์ ขณะที่พวกเขาเดินนำหน้ากองทัพออกไป และให้กล่าวว่า “จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์ เพราะความเมตตาของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์”
20:22 และเมื่อพวกเขาตั้งต้นร้องเพลงและสรรเสริญ พระเยโฮวาห์ได้ทรงจัดกองซุ่มต่าง ๆ คอยต่อสู้กับคนอัมโมน โมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ ผู้ซึ่งได้เข้ามาต่อสู้กับยูดาห์ และคนเหล่านั้นถูกตีแตกไป
20:23 ด้วยว่าคนอัมโมนและโมอับได้ลุกขึ้นต่อสู้กับชาวภูเขาเสอีร์ เพื่อสังหารและทำลายล้างให้หมดสิ้น และเมื่อพวกเขาได้ทำลายชาวเสอีร์หมดแล้ว พวกเขาทุกคนก็ช่วยกันทำลายซึ่งกันและกัน
20:24 และเมื่อคนยูดาห์ขึ้นไปอยู่ที่หอคอยในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาได้มองตรงไปที่คนหมู่ใหญ่นั้น และดูเถิด พวกเขาเป็นแต่ศพทั้งหลายที่ล้มลงถึงพื้นดิน และไม่มีสักคนเดียวที่หนีไปได้
20:25 และเมื่อเยโฮชาฟัทและประชากรของพระองค์ได้มาเก็บของริบจากพวกเขา พวกเขาก็พบสิ่งของเป็นจำนวนมากพร้อมกับศพเหล่านั้นท่ามกลางพวกเขา ทั้งทรัพย์สมบัติและเพชรพลอยต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาปลดออกมาสำหรับตัวเอง มากกว่าที่พวกเขาจะขนไปไหว และพวกเขาเก็บรวบรวมของที่ริบได้เหล่านั้นเป็นเวลาสามวัน เพราะมีมากเหลือเกิน

เยโฮชาฟัทเสด็จกลับไปยังเยรูซาเล็มอย่างมีชัย
20:26 และในวันที่สี่พวกเขาได้มาชุมนุมกันในหุบเขาแห่งเบราคาห์ เพราะที่นั่นพวกเขาสรรเสริญพระเยโฮวาห์ เพราะฉะนั้นชื่อของสถานที่นั้นจึงถูกเรียกว่า หุบเขาแห่งเบราคาห์ จนถึงทุกวันนี้
20:27 แล้วพวกเขากลับไป คือคนยูดาห์และเยรูซาเล็มทุกคน และเยโฮชาฟัทได้ทรงนำหน้าพวกเขา เพื่อกลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วยความชื่นบาน เพราะพระเยโฮวาห์ได้ทรงทำให้พวกเขาเปรมปรีดิ์เรื่องบรรดาศัตรูของพวกเขา
20:28 และพวกเขามายังกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับพวกพิณใหญ่ และพวกพิณเขาคู่ และแตรทั้งหลาย ยังพระนิเวศน์ของพระเยโฮวาห์
20:29 และความเกรงกลัวพระเจ้ามาอยู่เหนือบรรดาราชอาณาจักรของประเทศเหล่านั้น เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพระเยโฮวาห์ได้ทรงต่อสู้กับบรรดาศัตรูของอิสราเอล
20:30 ดังนั้นราชอาณาจักรของเยโฮชาฟัทจึงสงบเงียบ เพราะว่าพระเจ้าของพระองค์ได้ประทานการหยุดพักสงบแก่พระองค์อยู่รอบด้าน
20:31 และเยโฮชาฟัททรงครอบครองอยู่เหนือยูดาห์ พระองค์มีพระชนมายุสามสิบห้าพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองยี่สิบห้าปีในกรุงเยรูซาเล็ม และพระนามพระราชมารดาของพระองค์คือ อาซูบาห์ธิดาของชิลหิ
20:32 และพระองค์ได้ดำเนินในทางของอาสาราชบิดาของพระองค์ และไม่ได้ทรงพรากไปจากทางนั้น ทรงกระทำสิ่งซึ่งถูกต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์
20:33 แต่อย่างไรก็ตาม สถานบูชาบนที่สูงเหล่านั้นไม่ได้ถูกรื้อออกไปเสีย ด้วยว่าประชากรยังไม่ได้เตรียมใจของตนเพื่อเข้าหาพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของตน
20:34 บัดนี้ พระราชกิจนอกนั้นของเยโฮชาฟัท ตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย ดูเถิด สิ่งเหล่านั้นถูกบันทึกไว้ในหนังสือของเยฮูบุตรชายของฮานานี ผู้ซึ่งถูกกล่าวถึงในหนังสือของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

เยโฮชาฟัททรงเป็นพันธมิตรกับอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอลที่ชั่ว (1 พกษ 22:47-49)
20:35 และหลังจากเหตุการณ์นี้ เยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ได้ทรงร่วมงานกับอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งอิสราเอล ผู้ได้ทรงกระทำการอย่างชั่วมาก
20:36 และพระองค์ได้ทรงร่วมงานกับพระองค์เพื่อสร้างเรือหลายลำเพื่อไปยังเมืองทารชิช และพวกเขาได้สร้างเรือเหล่านั้นในเอซีโอนเกเบอร์
20:37 แล้วเอลีเอเซอร์บุตรชายของโดดาวาหุแห่งเมืองมาเรชาห์ได้พยากรณ์กล่าวโทษเยโฮชาฟัท โดยทูลว่า “เพราะพระองค์ได้ทรงร่วมงานกับอาหัสยาห์ พระเยโฮวาห์จึงได้ทรงทำลายผลงานเหล่านั้นของพระองค์เสีย” และเรือเหล่านั้นก็แตก เพื่อพวกมันไม่สามารถไปยังเมืองทารชิชได้

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope