ผู้วินิจฉัย 16 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
16:1 แล้วแซมสันไปที่เมืองกาซา และเห็นหญิงโสเภณีคนหนึ่งที่นั่น และเข้าไปหานาง
16:2 และมีคนบอกชาวกาซา โดยกล่าวว่า แซมสันมาที่นี่แล้ว และพวกเขาก็ล้อมท่านไว้อยู่ข้างใน และซุ่มคอยท่านอยู่ตลอดคืนในประตูเมือง และพวกเขาก็นิ่งเงียบอยู่ตลอดคืนนั้น โดยกล่าวว่า ตอนรุ่งเช้า เมื่อสว่างแล้ว พวกเราจะฆ่าเขาเสีย
16:3 และแซมสันนอนอยู่จนถึงเที่ยงคืน และลุกขึ้นตอนเที่ยงคืน และยกบรรดาประตูเมือง และเสาสองต้น และนำพวกมันไป พร้อมดาลประตูและสิ่งทั้งสิ้น และใส่พวกมันบนบ่าของท่าน และแบกพวกมันขึ้นไปถึงยอดเนินเขา ที่อยู่ตรงหน้าเมืองเฮโบรน
เดลิลาห์ล่อลวงและจับแซมสัน
16:4 และต่อมาภายหลัง ท่านได้รักผู้หญิงคนหนึ่งในหุบเขาแห่งโสเรก ผู้ซึ่งมีชื่อว่าเดลิลาห์
16:5 และพวกเจ้านายของคนฟีลิสเตียก็ขึ้นมาหาเธอ และกล่าวแก่เธอว่า จงล่อลวงเขา และดูว่ากำลังมหาศาลของเขาอยู่ที่ไหน และทำอย่างไรเพื่อพวกเราจะได้มีชัยต่อเขา เพื่อพวกเราจะได้ผูกมัดเขาไว้เพื่อทรมานเขา และพวกเราทุกคนจะให้เงินแก่เจ้าคนละหนึ่งพันหนึ่งร้อยแผ่น
16:6 และเดลิลาห์กล่าวแก่แซมสันว่า ขอบอกข้าเถิด ข้าขอร้องท่าน ว่ากำลังมหาศาลของท่านอยู่ที่ไหน และจะผูกมัดท่านไว้อย่างไรเพื่อทรมานท่าน
16:7 และแซมสันกล่าวแก่เธอว่า ถ้าพวกเขาผูกมัดข้าด้วยสายธนูสดที่ยังไม่แห้งเจ็ดเส้น แล้วข้าจะอ่อนเพลีย และเป็นเหมือนกับชายอื่น ๆ
16:8 แล้วพวกเจ้านายของคนฟีลิสเตียก็เอาสายธนูสดซึ่งยังไม่แห้งเจ็ดเส้นขึ้นมาให้เธอ และเธอก็ผูกมัดท่านไว้ด้วยสายธนูเหล่านั้น
16:9 บัดนี้มีพวกคนซุ่มคอยอยู่ โดยอาศัยอยู่กับเธอในห้องชั้นใน และเธอกล่าวแก่ท่านว่า คนฟีลิสเตียมาจับท่านแล้ว แซมสันเอ๋ย และท่านได้ทำสายธนูนั้นให้ขาดเหมือนอย่างเชือกป่านขาดเมื่อมันโดนไฟ ดังนั้นเรื่องกำลังของท่านจึงยังไม่เป็นที่ประจักษ์แจ้ง
16:10 และเดลิลาห์กล่าวแก่แซมสันว่า ดูเถิด ท่านกลั่นแกล้งข้าและโกหกข้า บัดนี้ขอบอกข้าเถิด ข้าขอร้องท่าน ว่าจะผูกมัดท่านไว้ได้อย่างไร
16:11 และท่านกล่าวแก่เธอว่า ถ้าพวกเขาผูกมัดข้าไว้แน่นด้วยเชือกใหม่หลายเส้นที่ยังไม่เคยใช้ แล้วข้าจะอ่อนเพลีย และเป็นเหมือนกับชายอื่น ๆ
16:12 ฉะนั้นเดลิลาห์จึงเอาเชือกใหม่หลายเส้นมา และผูกมัดท่านไว้ด้วยเชือกเหล่านั้น และกล่าวแก่ท่านว่า คนฟีลิสเตียมาจับท่านแล้ว แซมสันเอ๋ย และมีพวกคนซุ่มคอยอยู่ในห้องชั้นใน และท่านก็ทำเชือกเหล่านั้นให้ขาดจากแขนของตนเหมือนอย่างเส้นด้ายเส้นหนึ่ง
16:13 และเดลิลาห์กล่าวแก่แซมสันว่า จนถึงเดี๋ยวนี้ท่านกลั่นแกล้งข้าและโกหกข้า จงบอกข้าเถิดว่า จะผูกมัดท่านไว้ได้อย่างไร และท่านกล่าวแก่เธอว่า ถ้าเจ้าถักผมทั้งเจ็ดปอยของข้าเข้ากับด้ายเส้นยืน
16:14 และเธอได้ผูกผมทั้งเจ็ดปอยเข้ากับหลักหมุด และกล่าวแก่ท่านว่า คนฟีลิสเตียมาจับท่านแล้ว แซมสันเอ๋ย และท่านก็ตื่นขึ้นจากการนอนหลับของท่าน และออกไปพร้อมกับหลักหมุดของกระสวย และกับด้ายเส้นยืน
16:15 และเธอกล่าวแก่ท่านว่า ท่านพูดได้อย่างไรว่า ข้ารักเจ้า เมื่อใจของท่านไม่ได้อยู่กับข้าเลย ท่านได้กลั่นแกล้งข้าสามครั้งนี้แล้ว และท่านมิได้บอกข้าว่ากำลังมหาศาลของท่านอยู่ที่ไหน
16:16 และต่อมา เมื่อเธอคาดคั้นท่านวันแล้ววันเล่าด้วยบรรดาถ้อยคำของเธอ และเซ้าซี้ท่าน จนกระทั่งจิตใจของท่านก็เบื่อแทบจะตาย
16:17 ท่านจึงบอกหมดทั้งใจของท่านแก่เธอ และกล่าวแก่เธอว่า มีดโกนยังไม่เคยถูกต้องศีรษะของข้าเลย เพราะข้าเป็นนาศีร์ถวายแด่พระเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาของข้า ถ้าโกนผมข้าเสีย แล้วพละกำลังของข้าก็จะหมดไปจากข้า และข้าจะอ่อนเพลีย และเป็นเหมือนกับชายอื่น ๆ
16:18 และเมื่อเดลิลาห์เห็นว่าท่านบอกหมดทั้งใจของท่านแก่เธอแล้ว เธอจึงส่งไปและเรียกพวกเจ้านายของคนฟีลิสเตียมา โดยกล่าวว่า ขอจงขึ้นมาเดี๋ยวนี้เถิด เพราะเขาได้แสดงหมดทั้งใจของเขาแก่ข้าแล้ว แล้วพวกเจ้านายของคนฟีลิสเตียก็ขึ้นมาหาเธอ และนำเงินมาในมือของพวกเขา
16:19 และเธอก็ทำให้ท่านนอนหลับอยู่บนตักของเธอ และเธอได้เรียกชายคนหนึ่งมา และเธอทำให้เขาโกนผมทั้งเจ็ดปอยออกจากศีรษะของท่าน และเธอก็ตั้งต้นรบกวนท่าน และกำลังของท่านก็หมดไปจากท่าน
16:20 และเธอกล่าวว่า คนฟีลิสเตียมาจับท่านแล้ว แซมสันเอ๋ย และท่านก็ตื่นขึ้นจากการนอนหลับของท่าน และกล่าวว่า ข้าจะออกไปอย่างครั้งก่อน ๆ และสลัดตัวให้หลุดไป และท่านไม่รู้ตัวว่าพระเยโฮวาห์ได้จากท่านไปแล้ว
16:21 แต่คนฟีลิสเตียได้มาจับท่าน และควักลูกตาทั้งสองของท่านออกเสีย และนำท่านลงมายังกาซา และล่ามท่านไว้ด้วยเหล่าโซ่ตรวนทองเหลือง และท่านได้โม่แป้งอยู่ในเรือนจำ
16:22 แต่อย่างไรก็ตาม เส้นผมแห่งศีรษะของท่านก็ค่อย ๆ งอกขึ้นมาหลังจากท่านถูกโกนผมแล้ว
แซมสันฆ่าคนฟีลิสเตียก่อนสิ้นชีวิต
16:23 แล้วพวกเจ้านายของคนฟีลิสเตียมาชุมนุมกัน เพื่อถวายเครื่องสัตวบูชาอันยิ่งใหญ่แก่ดาโกนพระของพวกเขาและเพื่อชื่นชมยินดี เพราะพวกเขากล่าวว่า พระของพวกเราได้มอบแซมสันศัตรูของพวกเราไว้ในมือพวกเราแล้ว
16:24 และเมื่อประชาชนเห็นท่านแล้ว พวกเขาก็สรรเสริญพระของตน เพราะพวกเขากล่าวว่า พระของพวกเราได้มอบศัตรูของพวกเราไว้ในมือของพวกเรา และผู้ทำลายประเทศของพวกเรา ผู้ซึ่งได้ฆ่าพวกเราเป็นอันมาก
16:25 และต่อมา เมื่อใจทั้งหลายของพวกเขารื่นเริงแล้ว พวกเขากล่าวว่า จงเรียกแซมสันมา เพื่อเขาจะได้เล่นตลกต่อหน้าพวกเรา และพวกเขาได้เรียกแซมสันให้ออกมาจากเรือนจำ และท่านก็เล่นตลกต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาตั้งท่านไว้ระหว่างเสาทั้งสองต้น
16:26 และแซมสันกล่าวแก่เด็กหนุ่มที่จับมือของตนว่า ขอให้ข้าคลำเสาทั้งสองต้นที่รองรับนิเวศน์หลังนี้ เพื่อข้าจะได้พิงเสาเหล่านั้น
16:27 บัดนี้นิเวศน์หลังนั้นเต็มไปด้วยผู้ชายและผู้หญิง และบรรดาเจ้านายของคนฟีลิสเตียก็อยู่ที่นั่น และบนหลังคานิเวศน์หลังนั้นมีผู้ชายและผู้หญิงประมาณสามพันคน ที่มองดูขณะที่แซมสันเล่นตลก
16:28 และแซมสันก็ร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ และทูลว่า โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขอพระองค์ ขอประทานกำลังแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขอพระองค์ ครั้งนี้ครั้งเดียว โอ ข้าแต่พระเจ้า เพื่อในครั้งนี้เองข้าพระองค์จะได้แก้แค้นคนฟีลิสเตียเพื่อตาทั้งสองข้างของข้าพระองค์
16:29 และแซมสันได้จับเสากลางสองต้นที่รองรับนิเวศน์หลังนั้น และที่พยุงนิเวศน์หลังนั้นไว้ เสาต้นหนึ่งด้วยมือขวาของท่าน และเสาอีกต้นหนึ่งด้วยมือซ้ายของท่าน
16:30 และแซมสันกล่าวว่า ขอให้ข้าตายพร้อมกับคนฟีลิสเตีย และท่านก็โน้มตัวลงด้วยกำลังทั้งสิ้นของตน และนิเวศน์หลังนั้นก็พังทับบรรดาเจ้านาย และทับประชาชนทุกคนที่อยู่ในนั้น ดังนั้นคนที่ตายซึ่งท่านฆ่าเมื่อครั้งท่านตายนี้ก็มากกว่าคนทั้งหลายซึ่งท่านได้ฆ่าในชีวิตของท่าน
16:31 แล้วพี่น้องของท่านและบรรดาครอบครัวบิดาของท่านก็ลงมา และรับท่าน และพาท่านขึ้นไปและฝังท่านไว้ระหว่างโศราห์กับเอชทาโอล ในที่ฝังศพของมาโนอาห์บิดาของท่าน และท่านได้วินิจฉัยอิสราเอลอยู่ยี่สิบปี
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope